top of page

Chemsex อันตรายที่ซ่อนอยู่ในการใช้สารเสพติดเพื่อเพิ่มความสุขทางเพศ

Updated: 6 minutes ago

Chemsex เป็นพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้สารเสพติดเพื่อกระตุ้น และเพิ่มความพึงพอใจทางเพศ ซึ่งมักพบในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM) และกลุ่มที่มีพฤติกรรมทางเพศที่มีความเสี่ยงสูง โดยมีการใช้สารกระตุ้นเพื่อยืดเวลาทางเพศ ทำให้มีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรงขึ้น หรือเพื่อเพิ่มความมั่นใจ


แม้ว่า Chemsex อาจดูเป็นแนวทางที่ให้ความสุขในระยะสั้น แต่ในความเป็นจริง การใช้สารเสพติดเพื่อมีเพศสัมพันธ์นั้นมีความเสี่ยงที่ร้ายแรง ทั้งในแง่ของสุขภาพกาย และจิตใจ รวมถึงอันตรายทางกฎหมาย และสังคม ฉะนั้นการความเข้าใจเกี่ยวกับ Chemsex ตั้งแต่สาเหตุ รูปแบบการใช้สารเสพติด ผลกระทบต่อร่างกาย และจิตใจ และแนวทางป้องกันความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง

ภาพแสดงถึงความเสี่ยงและอันตรายจากการใช้สารเสพติดในกิจกรรมทางเพศหรือ Chemsex ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและร่างกาย
Chemsex อันตรายที่ซ่อนอยู่ในการใช้สารเสพติดเพื่อเพิ่มความสุขทางเพศ

Chemsex คืออะไร?

Chemsex หรือ Chemical Sex เป็นพฤติกรรมการใช้สารเสพติดเพื่อเพิ่มความสุขในการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งสารเหล่านี้มักเป็นยากระตุ้นหรือยากดประสาทที่มีผลต่อระบบประสาท และสมอง ทำให้ผู้ใช้มีความต้องการทางเพศสูงขึ้น รู้สึกผ่อนคลาย และสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้นานขึ้น Chemsex มักเกิดขึ้นในปาร์ตี้ส่วนตัวหรือกลุ่มเฉพาะที่ต้องการประสบการณ์ทางเพศที่เร้าใจมากขึ้น


แม้ว่า Chemsex อาจให้ความรู้สึกพึงพอใจในระยะสั้น แต่การใช้สารเสพติดเพื่อกระตุ้นพฤติกรรมทางเพศนั้นมี ความเสี่ยงสูงต่อสุขภาพกาย และจิตใจ รวมถึงเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เช่น HIV, ซิฟิลิส, หนองใน และไวรัสตับอักเสบบี/ซี Chemsex จึงเป็นประเด็นที่ต้องได้รับความเข้าใจ และการเฝ้าระวังอย่างจริงจัง


  • ลักษณะของ Chemsex Chemsex มักเกิดขึ้นใน ปาร์ตี้ส่วนตัว หรือสถานที่ที่ผู้เข้าร่วมสามารถใช้สารเสพติด และมีเพศสัมพันธ์ได้นานหลายชั่วโมง หรือแม้แต่หลายวัน โดยมักมีการใช้ยาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้

    • มีเพศสัมพันธ์ได้นานขึ้น

    • ลดความรู้สึกเขินอาย (ลดการยับยั้งชั่งใจ)

    • เพิ่มความต้องการทางเพศ (Sexual Arousal)

    • มีคู่นอนหลายคน ในช่วงเวลาเดียวกัน


  • พฤติกรรมทางเพศที่มักเกี่ยวข้องกับ Chemsex

    • มีคู่นอนหลายคน โดยเฉพาะในปาร์ตี้ที่มีคนจำนวนมาก

    • ไม่ใช้ถุงยางอนามัย เพิ่มโอกาสในการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์

    • การใช้สารเสพติดร่วมกันผ่านเข็มฉีดยา ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี และไวรัสตับอักเสบ

    • การมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง หรือยาวนานเกินไปจนเกิดอันตราย เช่น การฉีกขาดของเยื่อบุช่องคลอดหรือทวารหนัก


Chemsex เกิดขึ้นในกลุ่มใดบ้าง?

Chemsex พบมากใน กลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM) แต่สามารถเกิดขึ้นได้ในกลุ่มเพศอื่น ๆ ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงสูงทางเพศ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ หรือสถานที่ที่มีชุมชนที่เกี่ยวข้องกับการใช้สารเสพติด


กลุ่มที่มีแนวโน้มใช้ Chemsex ได้แก่

  • ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM) และ LGBTQ+

  • ผู้ที่ใช้สารเสพติดเป็นประจำ

  • ผู้ที่ต้องการลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับสมรรถภาพทางเพศ

  •  ผู้ที่เข้าร่วมปาร์ตี้เซ็กส์ (Sex Parties) เป็นประจำ


Chemsex มักเกี่ยวข้องกับความพยายามในการหาความสุขทางเพศ และความสัมพันธ์ทางสังคม แต่กลับเป็นพฤติกรรมที่แฝงด้วยความเสี่ยงต่อสุขภาพ


ทำไม Chemsex ถึงเป็นเรื่องที่ต้องระวัง?

Chemsex เป็นปัญหาที่น่ากังวลเนื่องจาก ความเสี่ยงสูงทางสุขภาพ และผลกระทบต่อจิตใจ ซึ่งรวมถึง


  • Chemsex เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ Chemsex มีความเชื่อมโยงอย่างมีนัยสำคัญกับการแพร่กระจายของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะ HIV, ซิฟิลิส, หนองใน, HPV และไวรัสตับอักเสบบี/ซี การใช้สารเสพติดในการมีเพศสัมพันธ์อาจทำให้ผู้ใช้สูญเสียการควบคุมพฤติกรรม ลดความระมัดระวัง และทำให้มีพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงสูงมากขึ้น

    โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับ Chemsex

    • HIV - เชื้อไวรัสที่ทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้เกิดโรคเอดส์ (AIDS) ในระยะสุดท้าย

    • โรคซิฟิลิส - โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่หากไม่ได้รับการรักษาจะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพที่รุนแรง รวมถึงผลกระทบต่อสมอง และหัวใจ

    • โรคหนองใน และโรคหนองในเทียม - ทำให้เกิดอาการอักเสบในอวัยวะเพศ ระบบทางเดินปัสสาวะ และทวารหนัก

    • โรคไวรัสตับอักเสบบี/ซี - โรคตับที่อาจนำไปสู่ภาวะตับแข็ง และมะเร็งตับ


  • Chemsex อาจนำไปสู่ภาวะเสพติด และพึ่งพายาเพื่อมีเพศสัมพันธ์ Chemsex ทำให้บางคนรู้สึกว่าจำเป็นต้องใช้สารเสพติดเพื่อให้มีความสุขทางเพศ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะเสพติดสารเสพติดในระยะยาว ผู้ใช้บางคนอาจพบว่า ไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้หากไม่มีการใช้ยา หรือรู้สึกว่าเพศสัมพันธ์ตามปกติไม่น่าพึงพอใจอีกต่อไป


    รูปแบบของภาวะเสพติดจาก Chemsex

    • การใช้สารเสพติดเป็นประจำก่อนมีเพศสัมพันธ์ - ผู้ใช้บางคนอาจรู้สึกว่าต้องใช้ยาเพื่อให้มีอารมณ์ทางเพศ

    • ต้องเพิ่มปริมาณยามากขึ้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์เดิม - ภูมิต้านทานต่อสารเสพติดจะเพิ่มขึ้นเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องเพิ่มปริมาณยาเรื่อย ๆ

    • เกิดอาการถอนยาเมื่อไม่ได้ใช้ - เช่น อารมณ์แปรปรวน วิตกกังวล ซึมเศร้า และไม่มีความต้องการทางเพศ


  • ผลกระทบทางจิตใจจาก Chemsex Chemsex อาจทำให้เกิดปัญหาทางสุขภาพจิตในระยะยาว เช่น

    • ภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวล - เมื่อสารเสพติดหมดฤทธิ์ ผู้ใช้บางคนอาจเกิดอาการซึมเศร้า วิตกกังวล และรู้สึกโดดเดี่ยว

    • โรคเครียดหลังเหตุการณ์รุนแรง (PTSD) - Chemsex อาจนำไปสู่การถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยไม่รู้ตัว ซึ่งอาจก่อให้เกิดภาวะ PTSD

    • อารมณ์แปรปรวน และพฤติกรรมก้าวร้าว - สารเสพติดบางชนิดทำให้เกิดอารมณ์รุนแรงและพฤติกรรมก้าวร้าว

  • อันตรายจากการใช้สารเสพติดเกินขนาด (Overdose) Chemsex มีความเสี่ยงต่อการใช้ยาเกินขนาด (Overdose) ซึ่งอาจทำให้หมดสติ หรือเสียชีวิต โดยเฉพาะเมื่อใช้ GHB, Methamphetamine หรือ Ketamine

    • อาการของ Overdose จาก Chemsex

      • หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือหัวใจวาย

      • หายใจลำบาก หรือระบบทางเดินหายใจล้มเหลว

      • ชัก หรือหมดสติ

      • ภาวะความดันโลหิตต่ำอย่างรุนแรง

    • การใช้สารเสพติดหลายชนิดร่วมกัน เช่น GHB กับแอลกอฮอล์ หรือ Methamphetamine กับ Ketamine อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอาการ Overdose อย่างมีนัยสำคัญ

  • Chemsex และผลกระทบต่อสังคม Chemsex ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อบุคคล แต่ยังมีผลกระทบต่อสังคมโดยรวม โดยเฉพาะในชุมชนชายรักชาย และกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง

    • เพิ่มภาระต่อระบบสาธารณสุข - มีผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เพิ่มขึ้นจากพฤติกรรม Chemsex

    • ปัญหาทางกฎหมาย - การใช้ และครอบครองสารเสพติดที่เกี่ยวข้องกับ Chemsex ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายในหลายประเทศ รวมถึงไทย

    • อัตราการเกิดอาชญากรรมทางเพศสูงขึ้น - มีรายงานการล่วงละเมิดทางเพศที่เกี่ยวข้องกับ Chemsex เพิ่มขึ้น

ภาพแสดงถึงประเภทของสารเสพติดที่ใช้ใน Chemsex รวมถึงสารเคมีที่เพิ่มความสุขทางเพศแต่มีอันตรายต่อสุขภาพ
ประเภทของสารเสพติดที่ใช้ใน Chemsex

ประเภทของสารเสพติดที่ใช้ใน Chemsex

สารเสพติดที่ใช้ใน Chemsex ส่วนใหญ่มักเป็น ยาออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทที่ช่วยกระตุ้นความสุข และความต้องการทางเพศ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ 

  • สารกระตุ้น (Stimulants), 

  • สารกดประสาท (Depressants), 

  • ยากล่อมประสาท และยานอนหลับ (Sedatives)

  • ยาเพิ่มความต้องการทางเพศ (Sexual Enhancers) 


โดยสารเสพติดแต่ละประเภทมีคุณสมบัติ และอันตรายที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้


1. สารกระตุ้น (Stimulants)

สารกระตุ้นเป็นกลุ่มสารเสพติดที่ช่วยเพิ่มพลังงาน ลดความเหนื่อยล้า และเพิ่มความต้องการทางเพศ ทำให้ผู้ใช้สามารถมีเพศสัมพันธ์ต่อเนื่องได้เป็นเวลาหลายชั่วโมงหรือหลายวัน ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงของการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง และเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์

  • Methamphetamine (Crystal Meth หรือ Tina)

    • เป็นสารกระตุ้นระบบประสาทที่รุนแรง ซึ่งสามารถทำให้เกิดความตื่นตัวสูงและกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ

    • Methamphetamine ทำให้ผู้ใช้ ไม่รู้สึกเหนื่อยหรือเจ็บปวด ทำให้มีเพศสัมพันธ์เป็นระยะเวลานานเกินไป และเสี่ยงต่อการบาดเจ็บที่อวัยวะเพศหรือทวารหนัก

    • มีฤทธิ์ทำลายสมอง หากใช้ต่อเนื่องอาจทำให้เกิดอาการประสาทหลอน, ภาวะหวาดระแวง และอารมณ์แปรปรวน

    • มีความเสี่ยงสูงต่อ ภาวะหัวใจล้มเหลว และการใช้ยาเกินขนาด (Overdose)

  • Cocaine

    • เป็นสารกระตุ้นที่ให้ความรู้สึกสุขใจ และมั่นใจในตนเองมากขึ้น ทำให้มีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีความกังวล

    • ส่งผลให้เกิดการใช้ถุงยางอนามัยลดลง ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

    • มีผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ความดันโลหิตสูง และเสี่ยงต่อ ภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน

    • สามารถทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าอย่างรุนแรงเมื่อหมดฤทธิ์ยา


2. สารกดประสาท (Depressants)

สารกดประสาทมีฤทธิ์ทำให้เกิดความผ่อนคลาย ลดความเครียด และทำให้เกิดอาการมึนเมา แต่ในขณะเดียวกัน ทำให้ความสามารถในการตัดสินใจลดลง และเสี่ยงต่อการถูกล่วงละเมิดทางเพศ

  • GHB (Gamma Hydroxybutyrate) หรือ GBL

    • เป็นสารที่ทำให้เกิดอาการ มึนเมา คลายความกังวล และลดความสามารถในการตัดสินใจ

    • หากใช้ในปริมาณมากอาจทำให้ หมดสติ หรืออัมพาตชั่วคราว ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ GHB ถูกใช้เป็น "ยาเสียสาว" หรือ Date Rape Drug

    • การใช้ร่วมกับแอลกอฮอล์หรือสารกดประสาทอื่น ๆ อาจทำให้เกิดอาการกดการหายใจ และเสี่ยงต่อการเสียชีวิต

    • หากใช้เป็นประจำจะทำให้เกิด ภาวะติดยาอย่างรุนแรง และอาจมีอาการถอนที่อันตรายเมื่อหยุดใช้

  • Ketamine

    • เป็นยาออกฤทธิ์หลอนประสาท และทำให้ร่างกายมึนชา ซึ่งมักใช้เป็นยาสลบในสัตวแพทย์

    • ทำให้ผู้ใช้ไม่รู้สึกเจ็บปวดทางกาย และอาจทำให้มีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรงหรือยาวนานกว่าปกติจนเกิดอันตราย

    • หากใช้ร่วมกับยาอื่น อาจเกิดอาการ หลุดออกจากความเป็นจริง (Dissociation) หรือเกิดภาพหลอนที่รุนแรง

    • เสี่ยงต่อ ภาวะติดยา และการใช้เกินขนาด ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการหมดสติหรือเสียชีวิต


3. ยากล่อมประสาท และยานอนหลับ (Sedatives)

กลุ่มยานอนหลับ และยากล่อมประสาทมักถูกใช้ร่วมกับ Chemsex เพื่อช่วยให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย แต่มีอันตรายอย่างมากเมื่อใช้ในปริมาณมาก หรือใช้ร่วมกับสารเสพติดอื่น ๆ

  • Benzodiazepines (Valium, Xanax, Rohypnol)

    • เป็นกลุ่มยากล่อมประสาทที่ใช้รักษาอาการวิตกกังวล และช่วยให้นอนหลับ

    • ใช้ใน Chemsex เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความกังวลเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์

    • เสี่ยงต่อการใช้ยาเกินขนาด หากใช้ร่วมกับแอลกอฮอล์หรือสารเสพติดอื่น ๆ

    • ทำให้เกิดภาวะติดยาอย่างรวดเร็ว และมีอาการถอนที่อันตรายหากหยุดใช้ทันที


4. ยาเพิ่มความต้องการทางเพศ (Sexual Enhancers)

ยาในกลุ่มนี้ไม่ได้ออกฤทธิ์โดยตรงต่อระบบประสาท แต่ช่วยกระตุ้นการตอบสนองทางเพศ และทำให้เกิดความสุขเพิ่มขึ้น

  • Poppers (Amyl Nitrite)

    • เป็นสารระเหยที่ใช้โดยการสูดดม เพื่อให้เกิดความรู้สึกเคลิ้ม และกระตุ้นการตอบสนองทางเพศ

    • ช่วย ขยายหลอดเลือด ลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อรอบทวารหนัก ทำให้ใช้กันในกลุ่มที่มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก

    • เสี่ยงต่อภาวะความดันโลหิตต่ำอย่างรุนแรง ซึ่งอาจทำให้เป็นลมหรือหมดสติ

    • หากใช้ร่วมกับยาไวอากร้า (Viagra) อาจทำให้เกิด ภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน

ภาพแสดงถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่มีอิทธิพลในการกระตุ้นให้คนหันมาใช้ Chemsex เช่น ความเครียด, การค้นหาความสุขทางเพศ, และปัจจัยทางสังคม
ปัจจัยที่มีอิทธิพลให้คนใช้ Chemsex

ปัจจัยที่มีอิทธิพลให้คนใช้ Chemsex

การใช้ Chemsex นั้นมักเกี่ยวข้องกับความต้องการทางเพศ ความต้องการลดความกังวล และอิทธิพลจากสังคมโดยรอบ ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถนำไปสู่การใช้สารเสพติดที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ดังนี้


  • ความต้องการลดความเครียด และความกังวลในการมีเพศสัมพันธ์ หลายคนที่หันมาใช้ Chemsex มักมีความกังวลเกี่ยวกับ สมรรถภาพทางเพศ หรือมี ปัญหาด้านอารมณ์ที่ส่งผลต่อชีวิตทางเพศ เช่น ความกดดันจากคู่รัก ความกลัวการถูกตัดสินจากคู่นอน หรือปัญหาสุขภาพจิตที่ทำให้พวกเขารู้สึกไม่มั่นใจเกี่ยวกับตัวเอง

    สารเสพติดช่วยลดความกังวลทางจิตใจ

    • Methamphetamine (Tina) หรือ Cocaine ช่วยเพิ่มพลังงาน ทำให้รู้สึกมั่นใจ และลดความวิตกกังวล

    • GHB หรือ Ketamine ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ละลดความตึงเครียด

    • Benzodiazepines (เช่น Xanax, Valium) ถูกใช้เพื่อบรรเทาความวิตกกังวล และทำให้รู้สึกสงบขึ้น

    เนื่องจากสารเหล่านี้สามารถทำให้เกิดอาการมึนเมา และเปลี่ยนแปลงการรับรู้ ผู้ใช้จึงอาจไม่รู้สึกกังวลเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตา ความสามารถทางเพศ หรือความคาดหวังที่คู่ของตนอาจมี ส่งผลให้พวกเขารู้สึกสบายใจมากขึ้น และมีเซ็กส์ได้ง่ายขึ้น


  • แรงกดดันจากกลุ่มเพื่อนหรือชุมชน แรงกดดันจากสังคมเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อพฤติกรรม Chemsex โดยเฉพาะในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM) ซึ่งมีวัฒนธรรมบางส่วนที่สนับสนุน Chemsex

    ปัจจัยทางสังคมที่กระตุ้นให้เกิด Chemsex

    • การเข้าสังคม และงานปาร์ตี้ – ในบางกลุ่ม Chemsex กลายเป็นวัฒนธรรมปาร์ตี้ที่พบได้ทั่วไป ผู้ที่อยู่ในกลุ่มที่มีการใช้สารเสพติดอาจรู้สึกว่าต้องเข้าร่วมเพื่อให้เป็นที่ยอมรับ

    • สื่อโซเชียล และแอปพลิเคชันหาคู่ – ปัจจุบันแอปพลิเคชันเช่น Grindr, Tinder หรือ Scruff เป็นแพลตฟอร์มที่ทำให้การนัด Chemsex ง่ายขึ้น บางคนอาจได้รับคำเชิญเข้าร่วม "ปาร์ตี้เซ็กส์" ที่มีการใช้สารเสพติดเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม

    • ความต้องการเป็นที่ยอมรับ – ผู้ที่รู้สึกว่าตัวเองถูกกีดกันทางสังคม อาจใช้ Chemsex เป็นวิธีการสร้างความสัมพันธ์ และหาความเชื่อมโยงกับผู้อื่น

    การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มี Chemsex เป็นเรื่องปกติทำให้หลายคนรู้สึกว่า การใช้สารเสพติดเพื่อเซ็กส์เป็นสิ่งที่ยอมรับได้ และอาจนำไปสู่การลองใช้สารเสพติดแม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยสนใจมาก่อน


  • ต้องการเพิ่มความสุขทางเพศ และความมั่นใจ Chemsex ถูกใช้เป็นวิธีหนึ่งในการ ขยายขีดความสามารถทางเพศ และเพิ่มความตื่นเต้นเร้าใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนมองหา โดยเฉพาะในกลุ่มที่ต้องการประสบการณ์เซ็กส์ที่เร่าร้อน และยาวนานขึ้น และช่วยเพิ่มความมั่นใจในตนเอง เพราะสำหรับบางคน Chemsex ทำให้พวกเขารู้สึกมั่นใจมากขึ้น และลดความอายหรือความลังเลในการแสดงออกทางเพศ บางคนอาจใช้เพื่อช่วยให้พวกเขารู้สึกเปิดกว้าง และกล้าที่จะทำในสิ่งที่ปกติแล้วไม่กล้าทำ เช่น

    • การทดลองมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนหลายคน

    • การมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรงขึ้น

    • การทดลองใช้วิธีการมีเพศสัมพันธ์แบบใหม่

    แม้ว่าการใช้สารเสพติดเพื่อเพิ่มความสุขทางเพศอาจดูเหมือนเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น แต่ในระยะยาวอาจนำไปสู่ภาวะเสพติด ทำให้ไม่สามารถมีเซ็กส์ได้โดยปราศจากยา และส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต


  • ปัญหาสุขภาพจิตที่ไม่ได้รับการดูแล เช่น ภาวะซึมเศร้า สุขภาพจิตเป็นปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับ Chemsex หลายคนที่มีปัญหาสุขภาพจิต เช่น ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล หรือความรู้สึกโดดเดี่ยว อาจหันไปใช้ Chemsex เพื่อหลีกหนีจากความรู้สึกเหล่านี้

    การใช้ Chemsex เป็นการ "หนีปัญหา"

    • ผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าอาจใช้ Methamphetamine หรือ GHB เพื่อทำให้รู้สึกดีขึ้น

    • ผู้ที่รู้สึกโดดเดี่ยวอาจใช้ Chemsex เพื่อสร้างความสัมพันธ์ทางกายกับผู้อื่น

    • ผู้ที่มีความเครียดจากชีวิตประจำวันอาจใช้ยาเพื่อช่วยให้ผ่อนคลาย

    อย่างไรก็ตาม Chemsex ไม่สามารถแก้ไขปัญหาสุขภาพจิตได้จริง ๆ ในทางกลับกัน อาจทำให้อาการแย่ลงเมื่อหมดฤทธิ์ยา และทำให้เกิดวงจรของ "การใช้ยาเพื่อหนีปัญหา"

ภาพแสดงถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ Chemsex เช่น การติดสารเสพติด, การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์, และผลกระทบต่อสุขภาพจิตและร่างกาย
ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ Chemsex

ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ Chemsex

  • เสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์  Chemsex ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เช่น HIV  โรคซิฟิลิส โรคหนองใน และไวรัสตับอักเสบบี และซี 

    • การมีเพศสัมพันธ์ที่ยาวนานและรุนแรงขึ้น

      • สารเสพติดบางชนิด เช่น Methamphetamine (Crystal Meth) และ GHB สามารถช่วยลดความเหนื่อยล้าและเพิ่มพลังงาน ทำให้ผู้ใช้มีเพศสัมพันธ์เป็นเวลาหลายชั่วโมง หรือแม้กระทั่งหลายวันโดยไม่พัก

      • การเสียดสีเป็นเวลานานอาจทำให้เกิด แผลถลอกหรือบาดแผล เพิ่มโอกาสที่เชื้อโรคจะแพร่กระจายเข้าสู่ร่างกายผ่านรอยแผล

    • ลดการยับยั้งชั่งใจ ทำให้ไม่ใช้ถุงยางอนามัย

      • Chemsex ส่งผลต่อการตัดสินใจและการยับยั้งชั่งใจ หลายคนที่เข้าร่วม Chemsex มักมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย

      • แม้ว่าบางคนจะพกถุงยางอนามัยติดตัวมา แต่ภายใต้ฤทธิ์ของยา พวกเขาอาจลืมใช้หรือเลือกที่จะมีเซ็กส์แบบ "ดิบ" (Bareback sex)

    • การมีคู่นอนหลายคนในเวลาเดียวกัน

      • Chemsex มักเกี่ยวข้องกับปาร์ตี้เซ็กส์ ซึ่งผู้เข้าร่วมอาจมีคู่นอนหลายคนในคืนเดียวกัน

      • การเปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ โดยไม่มีการป้องกันที่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มความเสี่ยงในการแพร่กระจายโรค

    • การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน

      • ผู้ใช้บางคนอาจ ฉีดสารเสพติดเข้าสู่กระแสเลือด (Slamming)

      • การใช้เข็มร่วมกันเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดในการแพร่เชื้อ HIV และไวรัสตับอักเสบบี/ซี


  • เสี่ยงต่อการใช้ยาเกินขนาด (Overdose) การใช้สารเสพติดในปริมาณที่มากเกินไปใน Chemsex อาจนำไปสู่ ภาวะ Overdose ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ดังนี้

    • GHB และ GBL: การใช้ในปริมาณที่มากเกินไปสามารถทำให้หมดสติ หยุดหายใจ และเสียชีวิตได้

    • Methamphetamine (Crystal Meth): การใช้ปริมาณสูงเกินไปอาจทำให้เกิด ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันโลหิตสูง หรือหัวใจวายเฉียบพลัน

    • Ketamine: การใช้มากเกินไปสามารถทำให้เกิดภาวะ กล้ามเนื้ออ่อนแรง หมดสติ และภาวะกดการหายใจ


  • ปัญหาสุขภาพจิต เช่น ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า Chemsex ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อร่างกายเท่านั้น แต่ยังทำให้เกิด ปัญหาทางสุขภาพจิตที่รุนแรง เช่น

    • ภาวะซึมเศร้า (Depression)

      • เมื่อฤทธิ์ยาหมดลง ผู้ใช้ Chemsex อาจเกิดภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล หรือรู้สึกหมดหวัง

      • อารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วสามารถนำไปสู่ ภาวะซึมเศร้าเรื้อรัง หรือความคิดฆ่าตัวตาย

    • ภาวะวิตกกังวล (Anxiety Disorders)

      • การใช้ Methamphetamine หรือ Cocaine อาจทำให้เกิด อาการหวาดระแวง (Paranoia) หรือภาวะวิตกกังวลรุนแรง

      • บางคนอาจรู้สึกว่ามีคนกำลังติดตามพวกเขา หรือมีความคิดหลอน (Psychosis)

    • ภาวะเสพติดสารเสพติด (Addiction)

      • Chemsex สามารถทำให้ผู้ใช้พัฒนาพฤติกรรม เสพติดทางร่างกาย และจิตใจ

      • บางคนอาจไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้สารเสพติดได้อีกต่อไป


  • การถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยไม่รู้ตัว Chemsex เพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกล่วงละเมิดทางเพศ เนื่องจาก ฤทธิ์ของสารเสพติดสามารถทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ดังนี้

    • GHB และ Ketamine มีฤทธิ์กดประสาท ทำให้บางคนหมดสติหรือไม่สามารถขัดขืนได้

    • บางคนอาจถูกวางยาโดยไม่รู้ตัว และถูกล่วงละเมิดทางเพศ

    • Chemsex มักเกิดขึ้นในปาร์ตี้ส่วนตัว ซึ่งอาจไม่มีบุคคลที่สามารถช่วยเหลือได้หากเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์

ภาพแสดงถึงผลกระทบของ Chemsex ทั้งทางร่างกาย เช่น ระบบประสาทเสียหาย และทางจิตใจ เช่น ความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้สารเสพติด
ผลกระทบของ Chemsex ทั้งทางร่างกาย และทางจิตใจ

ผลกระทบของ Chemsex ทั้งทางร่างกาย และทางจิตใจ

Chemsex ทำอย่างไรกับร่างกาย?

Chemsex เป็นกระบวนการที่มีผลกระทบโดยตรงต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกาย ทั้งทางกายภาพและทางจิตใจ การใช้สารเสพติดเพื่อเพิ่มความสุขทางเพศอาจนำไปสู่ภาวะทางสุขภาพที่รุนแรงได้ หากใช้เป็นระยะเวลานานหรือในปริมาณที่มากเกินไป ซึ่งอาจส่งผลต่อ หัวใจ ระบบไหลเวียนโลหิต ระบบขับถ่าย และระบบประสาท

  • ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น

    • สารกระตุ้นที่ใช้ใน Chemsex เช่น Methamphetamine (Crystal Meth) และ Cocaine ทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานหนักขึ้น

    • หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ (Tachycardia) อาจเพิ่มความเสี่ยงของภาวะหัวใจล้มเหลวหรือหัวใจวาย

    • ความดันโลหิตสูง (Hypertension) ทำให้เกิดแรงดันในเส้นเลือดสูงขึ้น ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง และหัวใจ

    • อาจทำให้หลอดเลือดในสมองหรือหัวใจแตกได้ (Aneurysm หรือ Stroke)

  • เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำ และอุณหภูมิร่างกายสูงเกินไป

    • การใช้ Methamphetamine หรือ Cocaine สามารถเพิ่มอุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น (Hyperthermia) ได้โดยเฉพาะเมื่อมีเพศสัมพันธ์เป็นเวลานาน

    • อุณหภูมิร่างกายที่สูงเกินไปอาจทำให้ ระบบประสาทเสียหาย และทำลายเซลล์สมอง

    • การขาดน้ำ (Dehydration) อาจทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย เวียนหัว และหมดสติ

    • เมื่อขาดน้ำอย่างรุนแรง ไตจะทำงานหนักขึ้น อาจนำไปสู่ ไตวายเฉียบพลัน (Acute Kidney Failure)

  • มีผลกระทบต่อตับ และไตจากการใช้สารเสพติดอย่างต่อเนื่อง

    • สารเสพติดที่ใช้ใน Chemsex มักถูกขับออกทาง ตับ และไต การใช้สารเสพติดอย่างต่อเนื่องทำให้ทั้งสองอวัยวะนี้ต้องทำงานหนักขึ้น

    • อาจเกิดภาวะ ตับอักเสบ (Hepatitis) และภาวะตับวาย หากใช้เป็นระยะเวลานาน

    • ไตอาจไม่สามารถขับของเสียออกจากร่างกายได้ ทำให้เกิดภาวะไตเสื่อม

    • GHB และ Ketamine มีผลต่อกระเพาะปัสสาวะ และไต อาจทำให้เกิด ภาวะปัสสาวะเป็นเลือด และปัญหาการขับปัสสาวะ


ผลกระทบทางจิตใจ จากการใช้สารเสพติดเพื่อมีเพศสัมพันธ์

นอกจากผลกระทบทางร่างกายแล้ว Chemsex ยังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อจิตใจ และอารมณ์ ของผู้ใช้ ทั้งในช่วงที่ยาออกฤทธิ์และหลังจากที่ยาเสื่อมลง ซึ่งอาจทำให้เกิด อารมณ์แปรปรวน ภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล และพฤติกรรมเสพติด

  • เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า และความวิตกกังวล

    • หลังจากที่ยาเสื่อมฤทธิ์ลง ผู้ใช้ Chemsex มักพบกับ ภาวะซึมเศร้า (Depression) และความวิตกกังวล (Anxiety)

    • สารกระตุ้น เช่น Crystal Meth และ Cocaine ทำให้เกิดภาวะ "Crash" หรือ อารมณ์ตกต่ำอย่างรุนแรง ซึ่งอาจทำให้รู้สึก หมดกำลังใจ เหนื่อยล้า หรือหดหู่

    • อาจเกิด ความรู้สึกผิด (Guilt) หรือความอับอาย (Shame) เนื่องจากการกระทำที่เกิดขึ้นระหว่างที่ใช้ยา

    • Chemsex อาจนำไปสู่ ภาวะซึมเศร้าเรื้อรัง หากใช้เป็นระยะเวลานาน

  • ทำให้เกิดอาการหวาดระแวง และความผิดปกติทางอารมณ์

    • การใช้ Methamphetamine หรือ Cocaine เป็นเวลานานอาจทำให้เกิด ภาวะหวาดระแวง (Paranoia)

    • บางคนอาจรู้สึกว่า มีคนกำลังติดตามหรือคุกคามตนเอง แม้ว่าจะไม่มีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริง

    • Chemsex อาจกระตุ้นอาการ โรคจิตเภท (Schizophrenia) หรืออาการหลอน (Hallucination) ในบางคน

    • อาจมีพฤติกรรม ก้าวร้าว หรือควบคุมอารมณ์ไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อใช้สารเสพติดติดต่อกันเป็นเวลาหลายชั่วโมงหรือหลายวัน

  • มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ และการดำเนินชีวิตประจำวัน

    • Chemsex อาจส่งผลให้ผู้ใช้ เสพติดพฤติกรรมทางเพศ ทำให้ไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติโดยไม่มีสารเสพติด

    • บางคนอาจ ไม่สามารถแยกแยะระหว่างเซ็กส์กับการใช้สารเสพติดได้อีกต่อไป

    • Chemsex อาจทำให้ผู้ใช้ เสียความสัมพันธ์กับคู่รัก หรือสูญเสียความไว้วางใจจากครอบครัว

    • ส่งผลต่อหน้าที่การงาน บางคนอาจลางานบ่อย เนื่องจากอาการเมาค้างหรืออารมณ์แปรปรวน

ภาพแสดงถึงแนวทางในการป้องกันและลดความเสี่ยงของ Chemsex เช่น การให้ความรู้เกี่ยวกับสารเสพติด, การสนับสนุนทางจิตใจ, และการใช้วิธีป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
แนวทางในการป้องกัน และลดความเสี่ยงของ Chemsex

แนวทางในการป้องกัน และลดความเสี่ยงของ Chemsex

การมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย และการหลีกเลี่ยงสารเสพติดเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันผลกระทบที่เป็นอันตรายจาก Chemsex ไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และ HIV แต่ยังช่วยป้องกันผลกระทบทางร่างกาย และจิตใจที่อาจเกิดจากการใช้สารเสพติดในบริบทของกิจกรรมทางเพศ


  • ใช้ถุงยางอนามัย และสารหล่อลื่น เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

    • ใช้ ถุงยางอนามัยทุกครั้ง ที่มีเพศสัมพันธ์ เพราะถุงยางอนามัยเป็นอุปกรณ์ป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูง ในการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) รวมถึง HIV, ซิฟิลิส, หนองใน และไวรัสตับอักเสบบี/ซี

    • เลือก สารหล่อลื่นที่เหมาะสม  เพราะการใช้สารหล่อลื่นช่วยลดความเสี่ยงของ การฉีกขาดของผิวหนังหรือเยื่อบุช่องคลอดและทวารหนัก ซึ่งเป็นช่องทางที่เชื้อโรคสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ ด้วยการ

    • เปลี่ยนถุงยาง ทุกครั้งที่เปลี่ยนคู่นอน และไม่ใช้ถุงยางซ้ำ


  • เข้ารับการตรวจเอชไอวี และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นประจำ

    • การตรวจหา HIV และ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้สามารถตรวจพบการติดเชื้อได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และป้องกันการแพร่กระจายของโรค เช่น ตรวจเป็นประจำ ทุก 3-6 เดือน โดยเฉพาะผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงสูง

    • Chemsex มักเกี่ยวข้องกับ พฤติกรรมทางเพศที่เสี่ยงสูง และ คู่นอนหลายคน ซึ่งเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อ อย่ารอให้มีอาการ แล้วค่อยตรวจ เพราะโรคบางชนิดอาจไม่มีอาการชัดเจน  หากตรวจพบว่ามีการติดเชื้อ ควรเข้ารับ การรักษาทันที เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ


  • หลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติดที่ไม่รู้แหล่งที่มา

    • สารเสพติดที่ใช้ใน Chemsex มัก ไม่มีมาตรฐานความปลอดภัย และอาจถูกเจือปนด้วยสารอันตราย ฉะนั้นควรเลือกใช้สารเสพติด ควรใช้จากแหล่งที่ น่าเชื่อถือ และปลอดภัย

    • การใช้สารเสพติดที่ไม่รู้ที่มาทำให้เสี่ยงต่อ การใช้ยาเกินขนาด (Overdose) หรือภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพ

    •  หลีกเลี่ยง การฉีดยาเข้าร่างกาย เพราะเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ HIV และไวรัสตับอักเสบบี/ซ

    • อย่าใช้สารเสพติดผสมกันหลายชนิด เพราะอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาระหว่างยา และเป็นอันตรายต่อร่างกาย


  • หากใช้ยา ควรมีเพื่อนที่ไว้ใจได้อยู่ด้วยเพื่อความปลอดภัย

    • Chemsex มักเกี่ยวข้องกับ การใช้ยาเพียงลำพัง หรือในสภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งอาจทำให้เสี่ยงต่อการ เสียชีวิตจาก Overdose หรือถูกล่วงละเมิดทางเพศ ฉะนั้นหากต้องใช้ยา ควรใช้ใน ที่ที่มีคนที่ไว้ใจได้อยู่ด้วย อย่าอยู่คนเดียว ขณะอยู่ภายใต้ฤทธิ์ของยา

    • การมี เพื่อนที่ไว้ใจได้ อยู่ด้วยสามารถช่วยกันดูแล และลดความเสี่ยงของเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ และควรบอกให้เพื่อน หรือคู่นอนรู้ว่า กำลังใช้ยาอะไร และปริมาณเท่าไหร่


  • เข้ารับคำปรึกษา และความช่วยเหลือหากรู้สึกว่ามีปัญหาการใช้สารเสพติด การใช้สารเสพติดอย่างต่อเนื่องอาจนำไปสู่ ภาวะติดยา (Drug Dependence) และส่งผลต่อสุขภาพจิต หากมีสัญญาณของการเสพติด เช่น ไม่สามารถหยุดใช้ยาได้ หรือรู้สึกต้องพึ่งพาสารเสพติดเพื่อมีเพศสัมพันธ์ ควรขอความช่วยเหลือ ด้วยการพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตหรือนักบำบัด หากรู้สึกว่าตนเองไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมการใช้ยาได้ หรือ เข้าร่วมกลุ่มสนับสนุน เช่น NA (Narcotics Anonymous) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ช่วยให้ผู้ติดยาได้รับการสนับสนุนจากผู้ที่มีประสบการณ์คล้ายกัน และอย่ากลัวหรืออายที่จะขอความช่วยเหลือ การรักษา และฟื้นฟูสามารถช่วยให้คุณกลับมามีชีวิตที่มีคุณภาพได้


  • พิจารณาการใช้ PrEP สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อเอชไอวี PrEP เป็นยาป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี สำหรับผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อ แต่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งการใช้ PrEP อย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อเอชไอวี ได้มากกว่า 90% แต่การใช้ PrEP ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ ได้ เช่น ซิฟิลิส หนองใน หรือ HPV ดังนั้นการใช้ถุงยางอนามัยควรใช้ควบคู่กัน 

ภาพแสดงถึงคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Chemsex เช่น อันตรายจากการใช้สารเสพติด, ผลกระทบต่อสุขภาพ, และวิธีการป้องกันความเสี่ยงจากการใช้สารในกิจกรรมทางเพศ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Chemsex

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Chemsex

Chemsex เป็นหัวข้อที่มีความซับซ้อน และเกี่ยวข้องกับสุขภาพทางกาย และจิตใจ รวมถึงปัญหาทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น บทความนี้จะตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Chemsex เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจถึงความเสี่ยง วิธีป้องกัน และแนวทางการรักษา


1.Chemsex อันตรายอย่างไร?

Chemsex มีความเสี่ยงที่ร้ายแรงทั้งต่อสุขภาพกาย และจิตใจ โดยอันตรายที่สำคัญ ได้แก่

  • เสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เพราะ Chemsex มักเกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย เช่น การมีคู่นอนหลายคนและไม่ใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อ HIV, ซิฟิลิส, หนองใน, HPV, ไวรัสตับอักเสบบีและซี หรือการใช้ ยาเสพติดร่วมกันผ่านเข็มฉีดยา เพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ HIV และไวรัสตับอักเสบบี/ซี ผ่านการใช้เข็มฉีดยาที่ปนเปื้อน

  • เสี่ยงต่อการใช้ยาเกินขนาด (Overdose) สารเสพติดที่ใช้ใน Chemsex เช่น GHB/GBL, Methamphetamine และ Ketamine อาจทำให้เกิดภาวะ Overdose ได้ เพราะ GHB/GBL หากใช้ในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้หมดสติ และ อาจถึงขั้นเสียชีวิต หรือ การใช้ยา Methamphetamine อาจเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจจนเกิดภาวะ หัวใจวายเฉียบพลัน

  • ส่งผลต่อสุขภาพจิต ผู้ใช้ Chemsex มีแนวโน้มที่จะพัฒนา ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล PTSD และโรคจิตเภท เพราะเมื่อพึ่งพาสารเสพติดเพื่อให้มีความสุขทางเพศ อาจทำให้เกิด อาการติดยา และ สูญเสียความสามารถในการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ยา อาจเกิดภาวะ Psychosis (โรคจิต) ซึ่งส่งผลให้เห็นภาพหลอน หรือมีอาการหวาดระแวง

  • เสี่ยงต่อการถูกล่วงละเมิดทางเพศ สารเสพติดบางชนิดเช่น GHB/GBL และ Ketamine ทำให้ผู้ใช้หมดสติหรือความสามารถในการตัดสินใจลดลง ซึ่งอาจทำให้ตกเป็นเหยื่อของการถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยไม่รู้ตัว


2.Chemsex สามารถป้องกันได้อย่างไร?

แม้ว่าการหลีกเลี่ยง Chemsex จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่หากคุณหรือคนรอบข้างยังมีส่วนร่วมกับพฤติกรรมนี้ มีหลายวิธีที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงได้

  • การป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ควรสวมถุงยางอนามัย ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ และใช้PrEP เป็นยาที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง 

  • เข้ารับการตรวจ HIV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นประจำ เพื่อให้สามารถรักษาได้เร็วหากพบการติดเชื้อ

  • ควรใช้สารเสพติดอย่างปลอดภัย (หากยังไม่สามารถหยุดได้) หลีกเลี่ยงการใช้ยาเกินขนาด และหลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติดหลายชนิดร่วมกัน หรือไม่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น และควรใช้เข็มฉีดยาแบบใช้ครั้งเดียว และควรมีเพื่อนที่ไว้ใจได้อยู่ด้วย เพื่อช่วยเหลือในกรณีเกิดภาวะฉุกเฉิน และควรดื่มน้ำให้เพียงพอ และพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อลดภาวะขาดน้ำ


3.การใช้สารเสพติดที่เกี่ยวข้องกับ Chemsex สามารถรักษาได้อย่างไร?

Chemsex Addiction หรือ การติด Chemsex สามารถรักษาได้ผ่านหลายวิธี

  • การบำบัดทางจิต และพฤติกรรม เช่น CBT (Cognitive Behavioral Therapy) หรือ การบำบัดพฤติกรรม และความคิด เพื่อช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Chemsex หรือกลุ่มสนับสนุน (Support Groups) เช่น NA (Narcotics Anonymous) สำหรับผู้ที่ต้องการเลิกใช้ยา

  • การรักษาด้วยยา แพทย์อาจให้ยาเพื่อช่วยลดอาการอยากยา เช่น Methadone หรือ Buprenorphine สำหรับผู้ที่ติด Opioids หรือยาต้านซึมเศร้า อาจถูกใช้เพื่อช่วยรักษาอาการซึมเศร้าที่เกิดจากการใช้สารเสพติด

  • การเข้ารับการฟื้นฟู เช่น Rehabilitation Programs หรือโปรแกรมฟื้นฟูสำหรับผู้ที่ต้องการเลิก Chemsex อย่างถาวร


4.ใครที่ควรระวังการทำ Chemsex?

กลุ่มที่ควรระวังเป็นพิเศษ ได้แก่

  • ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM) และ LGBTQ+

  • ผู้ที่มีประวัติติดสารเสพติดมาก่อน

  • ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิต เช่น ซึมเศร้า วิตกกังวล PTSD

  • ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี


5.Chemsex และกฎหมายในไทย

Chemsex ในประเทศไทยมีความเกี่ยวข้องกับ กฎหมายยาเสพติด และ กฎหมายเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ ดังนี้

  • กฎหมายเกี่ยวกับสารเสพติด

    • การครอบครองสารเสพติดที่ใช้ใน Chemsex เช่น Methamphetamine, GHB, Ketamine เป็นสิ่งผิดกฎหมาย (พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522)

    • การจำหน่ายหรือผลิตยาเสพติดอาจมีโทษ จำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต

  • กฎหมายเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ

    • หากมีการใช้สารเสพติดเพื่อ ล่วงละเมิดทางเพศ อาจเข้าข่าย คดีข่มขืนหรือล่วงละเมิดทางเพศ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276

    • การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่หมดสติจากการใช้สารเสพติด อาจเข้าข่าย ข่มขืนกระทำชำเรา ซึ่งมีโทษ จำคุกไม่ต่ำกว่า 4 ปี


6.ผลกระทบของ Chemsex ต่อการใช้ยาต้านไวรัสเอชไอวี

  • สารเสพติดบางชนิดใน Chemsex อาจมี ปฏิกิริยาต่อกันกับยาต้านไวรัสเอชไอวี (ARV Drugs)

  • Methamphetamine และ GHB อาจลดประสิทธิภาพของยาต้านไวรัส และเพิ่มความเสี่ยงของ การล้มเหลวในการรักษา HIV

  • การลืมรับประทานยา ARV เพราะมัวแต่ใช้สารเสพติด อาจทำให้ ระดับไวรัสเพิ่มขึ้น และเกิดภาวะดื้อยา


Chemsex เป็นแนวปฏิบัติที่เพิ่มความเสี่ยงทางสุขภาพอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในด้านร่างกาย จิตใจ และสังคม การมีความรู้เกี่ยวกับ Chemsex และแนวทางป้องกันตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญมาก หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีพฤติกรรม Chemsex ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาวิธีลดความเสี่ยง และดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม

Comments


12 Terry Francine St.

San Francisco, CA 94158

Opening Hours

Mon - Fri

8:00 am – 8:00 pm

Saturday

9:00 am – 7:00 pm

​Sunday

9:00 am – 9:00 pm

bottom of page