top of page

เชื้อเอชพีวี (HPV) ผลกระทบที่น่ากลัว หากละเลยการรักษา

Updated: Dec 14, 2024

เชื้อเอชพีวี (HPV) หรือ Human Papillomavirus เป็นหนึ่งในเชื้อไวรัสที่แพร่กระจายได้ง่าย และส่งผลกระทบต่อร่างกายมนุษย์มากที่สุดในโลก หลายคนอาจยังไม่ตระหนักถึงความร้ายแรงของเชื้อนี้ หากปล่อยให้การติดเชื้อดำเนินไปโดยไม่ได้รับการรักษา ผลกระทบที่เกิดขึ้นอาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว รวมถึงความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งที่รุนแรง ฉะนั้นการรู้ทุกแง่มุมเกี่ยวกับเชื้อเอชพีวี เพื่อสร้างความเข้าใจ และช่วยให้คุณตัดสินใจดูแลตัวเองได้อย่างถูกต้อง

ภาพแสดงข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อเอชพีวีและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหากละเลยการรักษา เช่น มะเร็งปากมดลูก หูดที่อวัยวะเพศ และผลกระทบต่อสุขภาพ พร้อมคำแนะนำการป้องกันและการรักษา
เชื้อเอชพีวี(HPV) ผลกระทบที่น่ากลัว หากละเลยการรักษา

ทำความรู้จักกับเชื้อเอชพีวี

เชื้อเอชพีวีเป็นไวรัสที่พบได้บ่อย และแพร่กระจายผ่านการสัมผัสผิวหนัง โดยเฉพาะการมีเพศสัมพันธ์ เชื้อไวรัสนี้แบ่งออกเป็นหลายสายพันธุ์ และสามารถจำแนกออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ

  1. สายพันธุ์ความเสี่ยงต่ำ เช่น สายพันธุ์ 6 และ 11 ซึ่งมักทำให้เกิดหูดบริเวณอวัยวะเพศ หรือที่เรียกว่า "หูดหงอนไก่"

  2. สายพันธุ์ความเสี่ยงสูง เช่น สายพันธุ์ 16 และ 18 ซึ่งมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับมะเร็งปากมดลูก รวมถึงมะเร็งชนิดอื่น เช่น มะเร็งช่องคลอด มะเร็งอวัยวะเพศชาย มะเร็งทวารหนัก และมะเร็งช่องปาก


การติดเชื้อเอชพีวีเกิดขึ้นได้อย่างไร?

การติดเชื้อเอชพีวีเกิดขึ้นผ่านการสัมผัสโดยตรงกับผิวหนังที่ติดเชื้อ โดยช่องทางหลัก ได้แก่

  • การมีเพศสัมพันธ์ ทั้งทางช่องคลอด ทวารหนัก และช่องปาก

  • การสัมผัสใกล้ชิด เช่น การใช้ของส่วนตัวร่วมกัน หรือการสัมผัสบริเวณที่มีรอยโรค

  • การติดเชื้อจากแม่สู่ลูก ระหว่างการคลอด

เชื้อเอชพีวีมักไม่แสดงอาการในระยะเริ่มต้น ทำให้ผู้ติดเชื้ออาจไม่รู้ตัวว่ากำลังแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น

ผลกระทบที่น่ากลัว หากละเลยการรักษา
ผลกระทบที่น่ากลัว หากละเลยการรักษา

ผลกระทบที่น่ากลัว หากละเลยการรักษา

  • หูดที่อวัยวะเพศ และร่างกาย

    • เกิดหูดในบริเวณที่สำคัญ เชื้อเอชพีวีสายพันธุ์ความเสี่ยงต่ำ เช่น สายพันธุ์ 6 และ 11 ทำให้เกิดหูดที่อวัยวะเพศ หูดเหล่านี้อาจสร้างความรำคาญ และไม่สบายตัว ทั้งยังส่งผลต่อความมั่นใจในชีวิตประจำวัน และความสัมพันธ์กับผู้อื่น

    • การลุกลามของหูด หากไม่ได้รับการรักษา หูดอาจลุกลาม และขยายใหญ่ขึ้นจนยากต่อการรักษา และอาจมีการติดเชื้อร่วมจนเกิดภาวะแทรกซ้อน

  • มะเร็งปากมดลูก

    • ภัยเงียบที่เริ่มต้นจากการติดเชื้อ สายพันธุ์ความเสี่ยงสูง เช่น 16 และ 18 เป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูก หากปล่อยให้เชื้อลุกลาม เซลล์ในปากมดลูกจะเกิดความผิดปกติจนพัฒนาเป็นมะเร็ง

    • ผลกระทบต่อระบบสืบพันธุ์ ผู้หญิงที่เป็นมะเร็งปากมดลูกอาจต้องเผชิญกับการสูญเสียความสามารถในการตั้งครรภ์ หรือการตัดอวัยวะสำคัญเพื่อรักษาชีวิต

  • มะเร็งชนิดอื่น ๆ

    • มะเร็งทวารหนัก พบได้ทั้งในผู้ชาย และผู้หญิง โดยเฉพาะในกลุ่มชายรักชาย

    • มะเร็งช่องปาก และลำคอ การติดเชื้อเอชพีวีจากการมีเพศสัมพันธ์ทางปากอาจนำไปสู่การเกิดมะเร็งในบริเวณช่องปาก และลำคอ ซึ่งมักตรวจพบในระยะลุกลาม

    • มะเร็งอวัยวะเพศชาย และช่องคลอด ถึงจะพบได้น้อยกว่า แต่ก็เป็นผลกระทบที่ร้ายแรงเช่นกัน

  • การแพร่กระจายเชื้อสู่ผู้อื่น ผู้ติดเชื้อที่ไม่ได้รับการรักษามักไม่แสดงอาการ แต่สามารถแพร่เชื้อไปยังคู่นอนหรือผู้อื่นผ่านการสัมผัสได้ง่าย

  • ผลกระทบต่อสุขภาพจิต ความเครียด และความวิตกกังวลที่เกิดจากการติดเชื้อ อาจส่งผลให้เกิดภาวะซึมเศร้าหรือการสูญเสียความมั่นใจในตนเอง


การรักษาเชื้อเอชพีวี

  • รักษาหูดที่เกิดจากเชื้อเอชพีวี

    • การจี้หูดด้วยเลเซอร์หรือไนโตรเจนเหลว ช่วยกำจัดหูดที่ผิวหนัง และอวัยวะเพศ

    • ยาทาเฉพาะที่ เช่น สาร podophyllotoxin หรือ imiquimod ที่ช่วยทำลายหูด

  • การเฝ้าระวังเซลล์ผิดปกติในปากมดลูก

    • การตัดชิ้นเนื้อเพื่อตรวจ หากพบเซลล์ผิดปกติ แพทย์อาจใช้วิธีตัดหรือจี้เซลล์ที่มีปัญหาออก

    • การติดตามผลอย่างต่อเนื่อง ผู้ป่วยควรเข้ารับการตรวจตามกำหนด เพื่อป้องกันการลุกลามของเซลล์มะเร็ง

  • การรักษามะเร็งที่เกิดจากเชื้อเอชพีวี

    • การผ่าตัด และเคมีบำบัด สำหรับผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งในระยะเริ่มต้น

    • การฉายรังสี ใช้ในกรณีที่มะเร็งลุกลาม

  • การดูแลสุขภาพทั่วไป การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การพักผ่อนเพียงพอ และการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย จะช่วยลดผลกระทบจากเชื้อ


ภาพแสดงวิธีการป้องกันเชื้อเอชพีวี เช่น การฉีดวัคซีน การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก การใช้ถุงยางอนามัย และการให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อ
การป้องกันเชื้อเอชพีวี

การป้องกันเชื้อเอชพีวี

  • ฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อเอชพีวี

    • ประสิทธิภาพของวัคซีน วัคซีนช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อสายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดมะเร็ง และหูด

    • ช่วงเวลาที่เหมาะสม ควรฉีดในช่วงวัยรุ่นก่อนเริ่มมีเพศสัมพันธ์

  • ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำ โดยการตรวจ PAP Smear และ HPV DNA Test ช่วยตรวจหาความผิดปกติในระยะเริ่มต้น

  • ใช้ถุงยางอนามัย แม้ไม่สามารถป้องกันได้ 100% แต่ช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ

  • ให้ความรู้เรื่องเพศศึกษา การให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการติดเชื้อ และวิธีป้องกันจะช่วยลดการแพร่ระบาด


เชื้อเอชพีวีเป็นไวรัสที่อาจดูเล็กน้อยในสายตาหลายคน หรืออาจดูเหมือนไม่รุนแรงในระยะเริ่มต้น แต่หากละเลยการรักษา ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นนั้นร้ายแรงจนคาดไม่ถึง ซึ่งอาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต การตระหนักถึงความเสี่ยง การให้ความสำคัญของการป้องกัน และการรักษาอย่างทันท่วงทีจึงเป็นสิ่งสำคัญ สามารถช่วยลดปัญหาสุขภาพที่ตามมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฉะนั้นอย่าละเลยสุขภาพของคุณ เพราะการดูแลสุขภาพตั้งแต่วันนี้จะช่วยปกป้องอนาคตของคุณเอง

Comments


12 Terry Francine St.

San Francisco, CA 94158

Opening Hours

Mon - Fri

8:00 am – 8:00 pm

Saturday

9:00 am – 7:00 pm

​Sunday

9:00 am – 9:00 pm

bottom of page