PEP vs Doxy-PEP เข้าใจความต่างก่อนเลือกใช้
- Siri Writer
- 4 days ago
- 4 min read
Updated: 11 hours ago
เมื่อพูดถึงวิธีการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หลายคนอาจคุ้นหูกับคำว่า PEP และ Doxy-PEP แต่ก็มักเกิดความสับสนว่าสองวิธีนี้ คือ สิ่งเดียวกันหรือสามารถใช้แทนกันได้ จริง ๆ แล้วทั้งคู่มีจุดมุ่งหมายในการป้องกันโรค แต่ทำงานต่างกันโดยสิ้นเชิง เราจะเจาะลึกความแตกต่างตั้งแต่ความหมาย วิธีการใช้ ประสิทธิภาพ ไปจนถึงข้อควรระวัง เพื่อให้คุณเข้าใจ และตัดสินใจเลือกใช้ได้ถูกต้อง

PEP คืออะไร?
PEP หรือ Post-Exposure Prophylaxis คือ การใช้ยาต้านไวรัสหลังจากที่มีความเสี่ยงสัมผัสกับเชื้อไวรัส เช่น กรณีมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันหรือถุงยางอนามัยแตก จุดประสงค์หลักของ PEP คือป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย และพัฒนาเป็นการติดเชื้อถาวร โดยจะต้องเริ่มใช้ภายใน 72 ชั่วโมงหลังจากเสี่ยง และกินต่อเนื่องตามระยะเวลาที่แพทย์กำหนด
Doxy-PEP คืออะไร?
Doxy-PEP หรือ Doxycycline Post-Exposure Prophylaxis เป็นวิธีการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากแบคทีเรีย เช่น ซิฟิลิส หนองในแท้ และคลามัยเดีย โดยใช้ยาปฏิชีวนะ Doxycycline หลังจากมีความเสี่ยง จุดประสงค์คือยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียก่อนที่จะก่อโรคอย่างรุนแรง
ความเหมือน–ความต่างของ PEP กับ Doxy-PEP
สิ่งที่เหมือนกัน
ทั้งสองเป็นมาตรการ หลังมีความเสี่ยง (post-exposure) คือใช้ภายหลัง เกิดเหตุ เช่น มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ถุงยางรั่ว/หลุด หรือมีการสัมผัสสารคัดหลั่งเสี่ยง
ยิ่งเริ่มใช้ เร็ว เท่าไร ประสิทธิภาพยิ่งสูง และควรทำคู่กับการ ประเมินความเสี่ยง/ตรวจคัดกรอง/ติดตามผล โดยบุคลากรทางการแพทย์
ทั้งคู่ ไม่ทดแทน การป้องกันหลัก เช่น ถุงยาง, ลดคู่นอนเสี่ยง, การตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ และการให้คำปรึกษา
สิ่งที่ต่างกัน
เชื้อเป้าหมาย
PEP มุ่งป้องกันไวรัส โดยเฉพาะ HIV
Doxy-PEP มุ่งป้องกันแบคทีเรีย ที่เป็นสาเหตุโรคติดต่อทางเพศ เช่น ซิฟิลิส (Treponema pallidum), หนองในเทียม/คลามัยเดีย (Chlamydia trachomatis) และอาจลดหนองใน (Neisseria gonorrhoeae) ได้บ้างในบางบริบท
ชนิดของยา
PEP ใช้ยาต้านไวรัส หลายตัวร่วมกันต่อเนื่อง
Doxy-PEP ใช้ยาปฏิชีวนะ ชื่อ doxycycline แบบมื้อสั้นตามเหตุการณ์
หน้าต่างเวลา และระยะการใช้
PEP เริ่มภายใน 72 ชั่วโมง (ยิ่งเร็วยิ่งดี) และกิน 28 วัน
Doxy-PEP มักรับประทาน 200 mg ภายใน 72 ชั่วโมงหลังเพศสัมพันธ์ที่มีความเสี่ยง (ไม่เกิน 200 mg ต่อ 24 ชม.)
ข้อห่วงกังวลเชิงระบบ
PEP โฟกัสการยึดตามสูตร และนัดติดตามเพื่อประเมินผล/ผลข้างเคียง
Doxy-PEP มีประเด็นเรื่อง การดื้อยาปฏิชีวนะ และผลต่อจุลชีพประจำถิ่น จึงต้องคัดเลือกผู้เหมาะสม และใช้อย่างระมัดระวัง
ตารางเปรียบเทียบ PEP vs Doxy-PEP
หัวข้อ | PEP | Doxy-PEP |
วัตถุประสงค์หลัก | ป้องกันการติดเชื้อ ไวรัส (เน้น HIV) หลังสัมผัสเสี่ยง | ลดความเสี่ยง แบคทีเรีย ที่ทำให้เป็นซิฟิลิส/คลามัยเดีย และอาจลดหนองในในบางบริบท |
กลุ่มเชื้อเป้าหมาย | ไวรัส (HIV) | แบคทีเรีย (T. pallidum, C. trachomatis; และ N. gonorrhoeae บางส่วน) |
ชนิดของยา | ยาต้านไวรัสหลายตัวร่วมกัน (สูตรมาตรฐานตามแนวทาง) | ยาปฏิชีวนะ doxycycline |
วิธีใช้/ขนาดยา (ตัวอย่างแนวทางสากล) | เริ่มภายใน ≤72 ชม. หลังเสี่ยง กินต่อเนื่อง 28 วัน | 200 mg ภายใน ≤72 ชม. หลังเพศสัมพันธ์ที่เสี่ยง โดยเว้นระยะอย่างน้อย 24 ชม.ต่อโดส |
หน้าต่างเวลาที่สำคัญ | ยิ่งเร็วยิ่งดี (ชั่วโมงแรก ๆ ได้ยิ่งดี) และต้องไม่เกิน 72 ชม. | ภายใน 72 ชม.หลังเพศสัมพันธ์ที่เสี่ยง (ส่วนมากภายใน 24 ชม.จะดีกว่า) |
การคัดเลือกผู้ใช้ | ผู้ที่มีเหตุเสี่ยงต่อ HIV ชัดเจน (ถุงยางแตก/ไม่ได้ใช้, เข็มตำ, สัมผัสเลือด/สารคัดหลั่งเสี่ยง) | โดยมากพิจารณาในกลุ่มเสี่ยงสูงต่อ STIs แบคทีเรีย ตามแนวทาง (เช่น มีประวัติ STIs ซ้ำ ๆ) โดยประเมินเป็นรายกรณี |
หลักฐานประสิทธิภาพ | มีหลักฐานเข้มแข็งว่าลดโอกาสติดเชื้อ HIV ได้ หากเริ่มเร็ว และรับยาครบ 28 วัน | งานวิจัยชี้ว่าลดซิฟิลิส/คลามัยเดียได้ชัด และลดหนองในได้บ้างในบางพื้นที่ แต่ประสิทธิภาพต่อหนองใน แปรผัน ตามภูมิภาค/การดื้อยา |
ผลข้างเคียงพบบ่อย | คลื่นไส้ อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ ท้องเสีย; ต้องติดตามการทำงานตับ/ไตตามสูตร | คลื่นไส้ แสบท้อง แพ้แดดง่าย (photosensitivity) ระคายทางเดินอาหาร; ระวังผลต่อจุลชีพประจำถิ่น |
ประเด็นความปลอดภัย/ข้อควรระวัง | ปฏิบัติตามสูตรครบ 28 วัน, ประเมินยาตีกัน, นัดติดตาม/ตรวจเลือด | เสี่ยง ดื้อยาปฏิชีวนะ หากใช้พร่ำเพรื่อ; หลีกเลี่ยงใช้ในหญิงตั้งครรภ์บางช่วงอายุครรภ์/ผู้แพ้ tetracycline; ทบทวนยาตีกัน (เช่น แคลเซียม/เหล็ก/ยาลดกรดลดการดูดซึม) |
การตรวจที่ควรทำร่วม | ตรวจ HIV เริ่มต้น และติดตามตามแนวทาง, พิจารณาตรวจโรคติดต่ออื่น ๆ | ตรวจคัดกรอง/ติดตาม STIs แบคทีเรีย ตามช่วงเวลา, คัดกรองซ้ำหากยังมีความเสี่ยง |
ใช้แทนวิธีป้องกันอื่นได้ไหม | ไม่ได้ ต้องใช้ร่วมกับถุงยาง/การป้องกันพฤติกรรม/PrEP (กรณีป้องกันระยะยาว) | ไม่ได้ ต้องใช้ร่วมกับถุงยาง/การลดความเสี่ยง และการตรวจเป็นระยะ |
สถานะนโยบาย/แนวทาง | เป็นมาตรฐานสากลมายาวนาน | แนวทาง ขึ้นกับประเทศ/บริบท และยังติดตามเรื่องดื้อยาอย่างใกล้ชิด |
ใครไม่น่าเหมาะ | ผู้ที่ไม่มีเหตุเสี่ยงต่อ HIV ชัดเจน หรือไม่พร้อมปฏิบัติตามการกินยา 28 วัน และนัดติดตาม | ผู้ที่แพ้ยา tetracycline, หญิงตั้งครรภ์บางช่วง, ผู้ที่มีความเสี่ยงดื้อยาสูง/ใช้ยาตีกันหลายชนิดโดยไม่สามารถจัดการได้ |

ใช้ PEP เมื่อไร? (ป้องกัน HIV หลังมีความเสี่ยง)
หลักการสั้น ๆ PEP = ยาต้านไวรัสหลายตัว กินติดต่อกัน 28 วัน และต้องเริ่ม ให้เร็วที่สุด ไม่เกิน 72 ชั่วโมง หลังเหตุการณ์เสี่ยง จึงจะมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยควรอยู่ภายใต้การประเมินของบุคลากรสาธารณสุขตั้งแต่ต้น (ตรวจคัดกรองก่อนเริ่มยา นัดติดตาม และตรวจเลือดตามระยะ)
ตัวอย่างสถานการณ์ที่เหมาะ/ควรพิจารณาการใช้ PEP
มีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด/ทวารหนัก โดยไม่ใช้ถุงยาง หรือ ถุงยางแตก/หลุด กับคู่ที่ทราบว่าติดเชื้อ HIV หรือมีความเสี่ยงสูง และไม่ทราบสถานะ
สัมผัสเลือด/สารคัดหลั่งเสี่ยงเข้าตา ปาก แผลเปิด
เข็มตำ อุบัติเหตุการใช้เข็มร่วมกัน (non-occupational exposures)
ผู้มาขอรับบริการ ช้ากว่า 72 ชั่วโมง: โดยหลักไม่เริ่ม PEP แต่ควรตรวจ HIV ให้คำปรึกษาลดเสี่ยง วางแผนติดตาม และพูดคุยเรื่อง PrEP สำหรับการป้องกันเชิงรุกในอนาคต ตามแนวทางปี 2025 ของ CDC.
หน้าต่างเวลา–วิธีใช้โดยสังเขป
เริ่มเร็วที่สุด และ ไม่เกิน 72 ชั่วโมง หลังสัมผัสเสี่ยง
รับยา ครบ 28 วัน ด้วยสูตรยาต้านไวรัส 3 ยา (แนวทาง CDC แนะนำสูตรมาตรฐานที่รับประทานวันละครั้ง เพื่อลดผลข้างเคียง และช่วยให้กินครบคอร์ส)
นัดติดตามที่ 24 ชั่วโมง (ทางไกล/พบแพทย์), และตรวจเลือดที่ 4–6 สัปดาห์ และ 12 สัปดาห์ หลังเหตุการณ์เสี่ยง รวมถึงพิจารณาเริ่ม PrEP ถ้ายังมีความเสี่ยงต่อเนื่องหลังจบคอร์ส PEP.
จุดที่ต้องระวัง
ยึดตามเวลา และกินยาครบ 28 วัน
ประเมินยาตีกัน ภาวะตับ/ไต และตั้งครรภ์ตามความเหมาะสม
PEP ไม่ทดแทน วิธีป้องกันอื่น เช่น การใช้ถุงยาง และการเริ่ม PrEP หากมีความเสี่ยงต่อเนื่อง.
ใช้ Doxy-PEP เมื่อไร? (ลดความเสี่ยง ซิฟิลิส/คลามัยเดีย/หนองใน หลังมีเพศสัมพันธ์)
หลักการสั้น ๆ Doxy-PEP = doxycycline 200 mg รับประทาน โดยเร็ว ภายใน 72 ชั่วโมง หลังมีเพศสัมพันธ์ที่เสี่ยง และ ไม่เกิน 1 โดสต่อ 24 ชั่วโมง ใช้เป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพทางเพศแบบองค์รวม (ตรวจคัดกรอง STIs สม่ำเสมอ ให้คำปรึกษาลดเสี่ยง วัคซีนที่เกี่ยวข้อง และเชื่อมต่อบริการ PrEP/HIV care ตามความเหมาะสม)
ใครคือกลุ่มเหมาะสม ตามแนวทางปัจจุบัน
ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM) และ สตรีข้ามเพศ (TGW) ที่มีประวัติ ติดเชื้อแบคทีเรียทางเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 1 ครั้งใน 12 เดือนที่ผ่านมา ควรได้รับการให้ข้อมูล/ตัดสินใจร่วมกับแพทย์เรื่องประโยชน์–ความเสี่ยงของ Doxy-PEP และสามารถสั่งยาไว้สำหรับ self-admin ตามเหตุการณ์ได้
หลักฐานสำหรับ ประชากรอื่น (เช่น cisgender women, ชายหญิงต่างเพศสัมพันธ์, transgender men) ยังจำกัด จึงควรประเมินเป็นรายกรณีโดยผู้เชี่ยวชาญ
หน้าต่างเวลา–วิธีใช้โดยสังเขป
รับประทาน 200 mg ภายใน 72 ชั่วโมง หลังมีเพศสัมพันธ์ทางปาก/ช่องคลอด/ทวารหนัก
ห้ามเกิน 1 โดสใน 24 ชั่วโมง แม้ว่ามีเพศสัมพันธ์หลายครั้งในวันเดียว
ประเมินความจำเป็นซ้ำทุก 3–6 เดือน พร้อมตรวจคัดกรอง STIs ตามตำแหน่งสัมผัสเสี่ยงในช่วงเวลาเดียวกัน
ผลลัพธ์ที่คาดหวัง–ข้อจำกัด
หลักฐานชี้ว่าลด ซิฟิลิส และ คลามัยเดีย ได้ชัดเจน และลด หนองใน ได้ในบางบริบท แต่ประสิทธิภาพต่อหนองใน แปรผัน
มีประเด็นเฝ้าระวังเรื่อง การดื้อยาปฏิชีวนะ และผลต่อ ไมโครไบโอม จึงควรใช้ในกลุ่มที่เหมาะสมและติดตามอย่างเป็นระบบ
องค์การอนามัยโลก (WHO) อยู่ระหว่าง พัฒนาคำแนะนำอย่างเป็นทางการ สำหรับการใช้ Doxy-PEP ในประชากรเสี่ยงบางกลุ่ม (อัปเดตปี 2025)

ข้อดี และข้อจำกัดของ PEP
ข้อดี
ป้องกันการติดเชื้อไวรัสเป้าหมาย (โดยเฉพาะ HIV) ได้มีประสิทธิภาพ เมื่อเริ่มเร็ว และ รับยาครบคอร์ส 28 วัน
เป็นมาตรฐานที่ผ่านการใช้จริงมายาวนาน มีแนวทางชัดเจนเรื่องสูตรยา การติดตามผล และจุดตรวจซ้ำ
ใช้ได้ในหลากหลายสถานการณ์เสี่ยง เช่น ถุงยางแตก/หลุด มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน เข็มตำ หรือสารคัดหลั่งกระเด็นเข้าตา/ปาก/แผล
เป็นสะพาน สู่การดูแลระยะยาวได้ดี: หลังจบ PEP สามารถประเมิน และเริ่ม PrEP สำหรับการป้องกันเชิงรุกในอนาคต
ข้อจำกัด
ต้องเริ่ม ภายใน 72 ชั่วโมง หลังเหตุการณ์เสี่ยง (ยิ่งเร็วยิ่งดี) จึงจะคุ้มค่า และมีประสิทธิภาพ
ต้องกินต่อเนื่อง 28 วันเต็ม จึงอาจมีปัญหาด้านความสม่ำเสมอ (adherence) ในบางคน
อาจเกิดผลข้างเคียง (เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ ท้องเสีย) และต้องติดตามการทำงานของตับ/ไต และปฏิกิริยาระหว่างยา
ไม่ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจาก แบคทีเรีย (ซิฟิลิส หนองใน คลามัยเดีย ฯลฯ) จำเป็นต้องมีการตรวจ/ป้องกันเพิ่มเติม
ไม่ทดแทนวิธีป้องกันหลัก (ถุงยาง/การลดพฤติกรรมเสี่ยง) และไม่ใช่ทางออกสำหรับการใช้เป็นประจำ แทนการวางแผนป้องกันล่วงหน้า
ข้อดี และข้อจำกัดของ Doxy-PEP
ข้อดี
ลดความเสี่ยงการติดเชื้อแบคทีเรีย ที่พบบ่อยหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ โดยเฉพาะ ซิฟิลิส และคลามัยเดีย และอาจช่วยลดหนองในในบางบริบท
ใช้ง่าย เป็น มื้อสั้นตามเหตุการณ์ (เช่น 200 mg ภายใน 72 ชม. หลังเพศสัมพันธ์) ไม่ต้องกินต่อเนื่องยาวหลายสัปดาห์
เหมาะในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีประวัติเป็น STIs ซ้ำ ช่วย “ตัดวงจร” การติดเชื้อซ้ำ และภาระการรักษา
ช่วยเสริมยุทธศาสตร์สุขภาพทางเพศแบบองค์รวม ร่วมกับการตรวจคัดกรองสม่ำเสมอ ถุงยาง และการให้คำปรึกษาลดเสี่ยง
ข้อจำกัด
ไม่ป้องกัน ไวรัส (เช่น HIV) และ ประสิทธิภาพต่อหนองใน อาจแปรผันตามพื้นที่/รูปแบบการดื้อยา
มีความกังวลเรื่อง การดื้อยาปฏิชีวนะ และผลกระทบต่อ จุลชีพประจำถิ่น (ไมโครไบโอม) จึงควรใช้ในกลุ่มที่เหมาะสม ภายใต้การติดตามอย่างเป็นระบบ
อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น ระคายทางเดินอาหาร คลื่นไส้ แพ้แดดง่าย (photosensitivity) และมีปฏิกิริยากับสาร/ยา (เช่น แคลเซียม เหล็ก อะลูมิเนียม ในยาลดกรด) ที่ลดการดูดซึม
สถานะนโยบาย/แนวทาง ยังพัฒนาอยู่ในหลายประเทศ ต้องอิงคำแนะนำปัจจุบันของพื้นที่ และพิจารณาเป็นรายบุคคล
มีข้อห้ามใช้ในบางภาวะ (เช่น การตั้งครรภ์บางช่วง แพ้ tetracycline) และไม่ควรใช้พร่ำเพรื่อหรือใช้แทนการตรวจรักษาตามมาตรฐาน
ทำไมหลายคนถึงสับสน
ทั้งสองมีคำว่า PEP เหมือนกัน และต่างก็เป็น การป้องกันหลังสัมผัสความเสี่ยง (Post-Exposure Prophylaxis)
หลายคนจึงเข้าใจว่าเป็นยาแบบเดียวกันหรือสามารถใช้แทนกันได้
ความจริงคือ…
PEP ใช้ ยาต้านไวรัส หลายตัวร่วมกัน เพื่อป้องกัน HIV หลังมีความเสี่ยง เช่น เพศสัมพันธ์ไม่ป้องกัน หรือเข็มตำจากผู้ติดเชื้อ
Doxy-PEP ใช้ ยาปฏิชีวนะ doxycycline ขนาด 200 mg หลังมีเพศสัมพันธ์เสี่ยง เพื่อป้องกัน โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากแบคทีเรีย เช่น ซิฟิลิส คลามัยเดีย และบางส่วนของหนองใน
ความเสี่ยงหากใช้ผิด
หากเสี่ยงต่อ HIV แต่กลับใช้ Doxy-PEP แทน PEP → จะไม่ได้รับการป้องกันไวรัสที่ถูกต้อง เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
หากเสี่ยงต่อ ซิฟิลิสหรือคลามัยเดีย แต่กลับใช้ PEP → จะไม่ได้ช่วยลดโอกาสติดเชื้อแบคทีเรีย เพราะ PEP ไม่ครอบคลุม
หากใช้ Doxy-PEP บ่อยเกินไปโดยไม่เหมาะสม → อาจนำไปสู่ปัญหา การดื้อยาปฏิชีวนะ
PEP และ Doxy-PEP เป็นมาตรการป้องกันที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง PEP ใช้เพื่อป้องกันเชื้อไวรัส ในขณะที่ Doxy-PEP มุ่งเน้นการป้องกันโรคจากแบคทีเรีย การเข้าใจความต่างอย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณเลือกใช้ได้เหมาะสมกับสถานการณ์ และป้องกันความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เอกสารอ้างอิง
Centers for Disease Control and Prevention (CDC). Clinical Guidance for PEP. Comprehensive details on non-occupational PEP use, timing, and regimens. ออนไลน์ออนไลน์ออนไลน์ เข้าถึงได้จาก https://www.cdc.gov/hivnexus/hcp/pep/index.html
Centers for Disease Control and Prevention (CDC). CDC Clinical Guidelines on the Use of Doxycycline Postexposure Prophylaxis for Bacterial STI Prevention — United States, 2024. ออนไลน์ออนไลน์ออนไลน์ เข้าถึงได้จาก https://www.cdc.gov/mmwr/volumes/73/rr/rr7302a1.htm
World Health Organization (WHO). Sexually transmitted infections (STIs) fact sheet. Global overview of STIs and updates on doxycycline prophylaxis. ออนไลน์ออนไลน์ออนไลน์ เข้าถึงได้จาก https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/sexually-transmitted-infections-(stis)
กระทรวงสาธารณสุขแห่งประเทศไทย. แนวทางการตรวจ รักษา และป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี ประเทศไทย พ.ศ. 2564/2565. เว็บไซต์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. ออนไลน์ออนไลน์ออนไลน์ เข้าถึงได้จาก https://stisqsa.ddc.moph.go.th/app-assets/manual/2566
สมาคมโรคเอดส์แห่งประเทศไทย (Thai AIDS Society). Thailand National Guidelines on HIV/AIDS Treatment and Prevention 2021–2022. ออนไลน์ออนไลน์ออนไลน์ เข้าถึงได้จาก https://www.thaiaidssociety.org/thailand-hiv-aids-guideline/



Comments