top of page

PEP vs Doxy-PEP เข้าใจความต่างก่อนเลือกใช้

Updated: 11 hours ago

เมื่อพูดถึงวิธีการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หลายคนอาจคุ้นหูกับคำว่า PEP และ Doxy-PEP แต่ก็มักเกิดความสับสนว่าสองวิธีนี้ คือ สิ่งเดียวกันหรือสามารถใช้แทนกันได้ จริง ๆ แล้วทั้งคู่มีจุดมุ่งหมายในการป้องกันโรค แต่ทำงานต่างกันโดยสิ้นเชิง เราจะเจาะลึกความแตกต่างตั้งแต่ความหมาย วิธีการใช้ ประสิทธิภาพ ไปจนถึงข้อควรระวัง เพื่อให้คุณเข้าใจ และตัดสินใจเลือกใช้ได้ถูกต้อง

ภาพเปรียบเทียบ PEP กับ Doxy-PEP อธิบายจุดประสงค์ วิธีใช้ และช่วงเวลาการป้องกัน เพื่อช่วยให้เข้าใจความแตกต่างก่อนตัดสินใจเลือกใช้
PEP vs Doxy-PEP เข้าใจความต่างก่อนเลือกใช้ 

PEP คืออะไร?

PEP หรือ Post-Exposure Prophylaxis คือ การใช้ยาต้านไวรัสหลังจากที่มีความเสี่ยงสัมผัสกับเชื้อไวรัส เช่น กรณีมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันหรือถุงยางอนามัยแตก จุดประสงค์หลักของ PEP คือป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย และพัฒนาเป็นการติดเชื้อถาวร โดยจะต้องเริ่มใช้ภายใน 72 ชั่วโมงหลังจากเสี่ยง และกินต่อเนื่องตามระยะเวลาที่แพทย์กำหนด


Doxy-PEP คืออะไร?

Doxy-PEP หรือ Doxycycline Post-Exposure Prophylaxis เป็นวิธีการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากแบคทีเรีย เช่น ซิฟิลิส หนองในแท้ และคลามัยเดีย โดยใช้ยาปฏิชีวนะ Doxycycline หลังจากมีความเสี่ยง จุดประสงค์คือยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียก่อนที่จะก่อโรคอย่างรุนแรง


ความเหมือน–ความต่างของ PEP กับ Doxy-PEP

สิ่งที่เหมือนกัน

  • ทั้งสองเป็นมาตรการ หลังมีความเสี่ยง (post-exposure) คือใช้ภายหลัง เกิดเหตุ เช่น มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ถุงยางรั่ว/หลุด หรือมีการสัมผัสสารคัดหลั่งเสี่ยง

  • ยิ่งเริ่มใช้ เร็ว เท่าไร ประสิทธิภาพยิ่งสูง และควรทำคู่กับการ ประเมินความเสี่ยง/ตรวจคัดกรอง/ติดตามผล โดยบุคลากรทางการแพทย์

  • ทั้งคู่ ไม่ทดแทน การป้องกันหลัก เช่น ถุงยาง, ลดคู่นอนเสี่ยง, การตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ และการให้คำปรึกษา


สิ่งที่ต่างกัน

  • เชื้อเป้าหมาย

    • PEP มุ่งป้องกันไวรัส โดยเฉพาะ HIV

    • Doxy-PEP มุ่งป้องกันแบคทีเรีย ที่เป็นสาเหตุโรคติดต่อทางเพศ เช่น ซิฟิลิส (Treponema pallidum), หนองในเทียม/คลามัยเดีย (Chlamydia trachomatis) และอาจลดหนองใน (Neisseria gonorrhoeae) ได้บ้างในบางบริบท

  • ชนิดของยา

    • PEP ใช้ยาต้านไวรัส หลายตัวร่วมกันต่อเนื่อง

    • Doxy-PEP ใช้ยาปฏิชีวนะ ชื่อ doxycycline แบบมื้อสั้นตามเหตุการณ์

  • หน้าต่างเวลา และระยะการใช้

    • PEP เริ่มภายใน 72 ชั่วโมง (ยิ่งเร็วยิ่งดี) และกิน 28 วัน

    • Doxy-PEP มักรับประทาน 200 mg ภายใน 72 ชั่วโมงหลังเพศสัมพันธ์ที่มีความเสี่ยง (ไม่เกิน 200 mg ต่อ 24 ชม.)

  • ข้อห่วงกังวลเชิงระบบ

    • PEP โฟกัสการยึดตามสูตร และนัดติดตามเพื่อประเมินผล/ผลข้างเคียง

    • Doxy-PEP มีประเด็นเรื่อง การดื้อยาปฏิชีวนะ และผลต่อจุลชีพประจำถิ่น จึงต้องคัดเลือกผู้เหมาะสม และใช้อย่างระมัดระวัง


ตารางเปรียบเทียบ PEP vs Doxy-PEP

หัวข้อ

PEP

Doxy-PEP

วัตถุประสงค์หลัก

ป้องกันการติดเชื้อ ไวรัส (เน้น HIV) หลังสัมผัสเสี่ยง

ลดความเสี่ยง แบคทีเรีย ที่ทำให้เป็นซิฟิลิส/คลามัยเดีย และอาจลดหนองในในบางบริบท

กลุ่มเชื้อเป้าหมาย

ไวรัส (HIV)

แบคทีเรีย (T. pallidum, C. trachomatis; และ N. gonorrhoeae บางส่วน)

ชนิดของยา

ยาต้านไวรัสหลายตัวร่วมกัน (สูตรมาตรฐานตามแนวทาง)

ยาปฏิชีวนะ doxycycline

วิธีใช้/ขนาดยา (ตัวอย่างแนวทางสากล)

เริ่มภายใน ≤72 ชม. หลังเสี่ยง กินต่อเนื่อง 28 วัน

200 mg ภายใน ≤72 ชม. หลังเพศสัมพันธ์ที่เสี่ยง โดยเว้นระยะอย่างน้อย 24 ชม.ต่อโดส

หน้าต่างเวลาที่สำคัญ

ยิ่งเร็วยิ่งดี (ชั่วโมงแรก ๆ ได้ยิ่งดี) และต้องไม่เกิน 72 ชม.

ภายใน 72 ชม.หลังเพศสัมพันธ์ที่เสี่ยง (ส่วนมากภายใน 24 ชม.จะดีกว่า)

การคัดเลือกผู้ใช้

ผู้ที่มีเหตุเสี่ยงต่อ HIV ชัดเจน (ถุงยางแตก/ไม่ได้ใช้, เข็มตำ, สัมผัสเลือด/สารคัดหลั่งเสี่ยง)

โดยมากพิจารณาในกลุ่มเสี่ยงสูงต่อ STIs แบคทีเรีย ตามแนวทาง (เช่น มีประวัติ STIs ซ้ำ ๆ) โดยประเมินเป็นรายกรณี

หลักฐานประสิทธิภาพ

มีหลักฐานเข้มแข็งว่าลดโอกาสติดเชื้อ HIV ได้ หากเริ่มเร็ว และรับยาครบ 28 วัน

งานวิจัยชี้ว่าลดซิฟิลิส/คลามัยเดียได้ชัด  และลดหนองในได้บ้างในบางพื้นที่ แต่ประสิทธิภาพต่อหนองใน แปรผัน ตามภูมิภาค/การดื้อยา

ผลข้างเคียงพบบ่อย

คลื่นไส้ อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ ท้องเสีย; ต้องติดตามการทำงานตับ/ไตตามสูตร

คลื่นไส้ แสบท้อง แพ้แดดง่าย (photosensitivity) ระคายทางเดินอาหาร; ระวังผลต่อจุลชีพประจำถิ่น

ประเด็นความปลอดภัย/ข้อควรระวัง

ปฏิบัติตามสูตรครบ 28 วัน, ประเมินยาตีกัน, นัดติดตาม/ตรวจเลือด

เสี่ยง ดื้อยาปฏิชีวนะ หากใช้พร่ำเพรื่อ; หลีกเลี่ยงใช้ในหญิงตั้งครรภ์บางช่วงอายุครรภ์/ผู้แพ้ tetracycline; ทบทวนยาตีกัน (เช่น แคลเซียม/เหล็ก/ยาลดกรดลดการดูดซึม)

การตรวจที่ควรทำร่วม

ตรวจ HIV เริ่มต้น และติดตามตามแนวทาง, พิจารณาตรวจโรคติดต่ออื่น ๆ

ตรวจคัดกรอง/ติดตาม STIs แบคทีเรีย ตามช่วงเวลา, คัดกรองซ้ำหากยังมีความเสี่ยง

ใช้แทนวิธีป้องกันอื่นได้ไหม

ไม่ได้ ต้องใช้ร่วมกับถุงยาง/การป้องกันพฤติกรรม/PrEP (กรณีป้องกันระยะยาว)

ไม่ได้ ต้องใช้ร่วมกับถุงยาง/การลดความเสี่ยง และการตรวจเป็นระยะ

สถานะนโยบาย/แนวทาง

เป็นมาตรฐานสากลมายาวนาน

แนวทาง ขึ้นกับประเทศ/บริบท และยังติดตามเรื่องดื้อยาอย่างใกล้ชิด

ใครไม่น่าเหมาะ

ผู้ที่ไม่มีเหตุเสี่ยงต่อ HIV ชัดเจน หรือไม่พร้อมปฏิบัติตามการกินยา 28 วัน และนัดติดตาม

ผู้ที่แพ้ยา tetracycline, หญิงตั้งครรภ์บางช่วง, ผู้ที่มีความเสี่ยงดื้อยาสูง/ใช้ยาตีกันหลายชนิดโดยไม่สามารถจัดการได้

ภาพอธิบายช่วงเวลาที่ควรเริ่มใช้ยา PEP และ Doxy-PEP หลังจากมีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ เพื่อช่วยป้องกันเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างมีประสิทธิภาพ
ใช้ PEP และ Doxy-PEP เมื่อไร?

ใช้ PEP เมื่อไร? (ป้องกัน HIV หลังมีความเสี่ยง)

หลักการสั้น ๆ PEP = ยาต้านไวรัสหลายตัว กินติดต่อกัน 28 วัน และต้องเริ่ม ให้เร็วที่สุด ไม่เกิน 72 ชั่วโมง หลังเหตุการณ์เสี่ยง จึงจะมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยควรอยู่ภายใต้การประเมินของบุคลากรสาธารณสุขตั้งแต่ต้น (ตรวจคัดกรองก่อนเริ่มยา นัดติดตาม และตรวจเลือดตามระยะ)


ตัวอย่างสถานการณ์ที่เหมาะ/ควรพิจารณาการใช้ PEP

  • มีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด/ทวารหนัก โดยไม่ใช้ถุงยาง หรือ ถุงยางแตก/หลุด กับคู่ที่ทราบว่าติดเชื้อ HIV หรือมีความเสี่ยงสูง และไม่ทราบสถานะ

  • สัมผัสเลือด/สารคัดหลั่งเสี่ยงเข้าตา ปาก แผลเปิด

  • เข็มตำ อุบัติเหตุการใช้เข็มร่วมกัน (non-occupational exposures)

  • ผู้มาขอรับบริการ ช้ากว่า 72 ชั่วโมง: โดยหลักไม่เริ่ม PEP แต่ควรตรวจ HIV ให้คำปรึกษาลดเสี่ยง วางแผนติดตาม และพูดคุยเรื่อง PrEP สำหรับการป้องกันเชิงรุกในอนาคต ตามแนวทางปี 2025 ของ CDC. 

หน้าต่างเวลา–วิธีใช้โดยสังเขป

  • เริ่มเร็วที่สุด และ ไม่เกิน 72 ชั่วโมง หลังสัมผัสเสี่ยง

  • รับยา ครบ 28 วัน ด้วยสูตรยาต้านไวรัส 3 ยา (แนวทาง CDC แนะนำสูตรมาตรฐานที่รับประทานวันละครั้ง เพื่อลดผลข้างเคียง และช่วยให้กินครบคอร์ส)

  • นัดติดตามที่ 24 ชั่วโมง (ทางไกล/พบแพทย์), และตรวจเลือดที่ 4–6 สัปดาห์ และ 12 สัปดาห์ หลังเหตุการณ์เสี่ยง รวมถึงพิจารณาเริ่ม PrEP ถ้ายังมีความเสี่ยงต่อเนื่องหลังจบคอร์ส PEP.

จุดที่ต้องระวัง

  • ยึดตามเวลา และกินยาครบ 28 วัน

  • ประเมินยาตีกัน ภาวะตับ/ไต และตั้งครรภ์ตามความเหมาะสม

  • PEP ไม่ทดแทน วิธีป้องกันอื่น เช่น การใช้ถุงยาง และการเริ่ม PrEP หากมีความเสี่ยงต่อเนื่อง.


ใช้ Doxy-PEP เมื่อไร? (ลดความเสี่ยง ซิฟิลิส/คลามัยเดีย/หนองใน หลังมีเพศสัมพันธ์)

หลักการสั้น ๆ Doxy-PEP = doxycycline 200 mg รับประทาน โดยเร็ว ภายใน 72 ชั่วโมง หลังมีเพศสัมพันธ์ที่เสี่ยง และ ไม่เกิน 1 โดสต่อ 24 ชั่วโมง ใช้เป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพทางเพศแบบองค์รวม (ตรวจคัดกรอง STIs สม่ำเสมอ ให้คำปรึกษาลดเสี่ยง วัคซีนที่เกี่ยวข้อง และเชื่อมต่อบริการ PrEP/HIV care ตามความเหมาะสม)


ใครคือกลุ่มเหมาะสม ตามแนวทางปัจจุบัน

  • ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM) และ สตรีข้ามเพศ (TGW) ที่มีประวัติ ติดเชื้อแบคทีเรียทางเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 1 ครั้งใน 12 เดือนที่ผ่านมา ควรได้รับการให้ข้อมูล/ตัดสินใจร่วมกับแพทย์เรื่องประโยชน์–ความเสี่ยงของ Doxy-PEP และสามารถสั่งยาไว้สำหรับ self-admin ตามเหตุการณ์ได้

  • หลักฐานสำหรับ ประชากรอื่น (เช่น cisgender women, ชายหญิงต่างเพศสัมพันธ์, transgender men) ยังจำกัด จึงควรประเมินเป็นรายกรณีโดยผู้เชี่ยวชาญ

หน้าต่างเวลา–วิธีใช้โดยสังเขป

  • รับประทาน 200 mg ภายใน 72 ชั่วโมง หลังมีเพศสัมพันธ์ทางปาก/ช่องคลอด/ทวารหนัก

  • ห้ามเกิน 1 โดสใน 24 ชั่วโมง แม้ว่ามีเพศสัมพันธ์หลายครั้งในวันเดียว

  • ประเมินความจำเป็นซ้ำทุก 3–6 เดือน พร้อมตรวจคัดกรอง STIs ตามตำแหน่งสัมผัสเสี่ยงในช่วงเวลาเดียวกัน

ผลลัพธ์ที่คาดหวัง–ข้อจำกัด

  • หลักฐานชี้ว่าลด ซิฟิลิส และ คลามัยเดีย ได้ชัดเจน และลด หนองใน ได้ในบางบริบท แต่ประสิทธิภาพต่อหนองใน แปรผัน

  • มีประเด็นเฝ้าระวังเรื่อง การดื้อยาปฏิชีวนะ และผลต่อ ไมโครไบโอม จึงควรใช้ในกลุ่มที่เหมาะสมและติดตามอย่างเป็นระบบ

  • องค์การอนามัยโลก (WHO) อยู่ระหว่าง พัฒนาคำแนะนำอย่างเป็นทางการ สำหรับการใช้ Doxy-PEP ในประชากรเสี่ยงบางกลุ่ม (อัปเดตปี 2025)

ภาพเปรียบเทียบข้อดีและข้อจำกัดของ PEP และ Doxy-PEP อธิบายประสิทธิภาพ วิธีใช้ และข้อควรระวังในการป้องกันเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
ข้อดี และข้อจำกัด PEP และ Doxy-PEP

ข้อดี และข้อจำกัดของ PEP

ข้อดี

  • ป้องกันการติดเชื้อไวรัสเป้าหมาย (โดยเฉพาะ HIV) ได้มีประสิทธิภาพ เมื่อเริ่มเร็ว และ รับยาครบคอร์ส 28 วัน

  • เป็นมาตรฐานที่ผ่านการใช้จริงมายาวนาน มีแนวทางชัดเจนเรื่องสูตรยา การติดตามผล และจุดตรวจซ้ำ

  • ใช้ได้ในหลากหลายสถานการณ์เสี่ยง เช่น ถุงยางแตก/หลุด มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน เข็มตำ หรือสารคัดหลั่งกระเด็นเข้าตา/ปาก/แผล

  • เป็นสะพาน สู่การดูแลระยะยาวได้ดี: หลังจบ PEP สามารถประเมิน และเริ่ม PrEP สำหรับการป้องกันเชิงรุกในอนาคต

ข้อจำกัด

  • ต้องเริ่ม ภายใน 72 ชั่วโมง หลังเหตุการณ์เสี่ยง (ยิ่งเร็วยิ่งดี) จึงจะคุ้มค่า และมีประสิทธิภาพ

  • ต้องกินต่อเนื่อง 28 วันเต็ม จึงอาจมีปัญหาด้านความสม่ำเสมอ (adherence) ในบางคน

  • อาจเกิดผลข้างเคียง (เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ ท้องเสีย) และต้องติดตามการทำงานของตับ/ไต และปฏิกิริยาระหว่างยา

  • ไม่ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจาก แบคทีเรีย (ซิฟิลิส หนองใน คลามัยเดีย ฯลฯ) จำเป็นต้องมีการตรวจ/ป้องกันเพิ่มเติม

  • ไม่ทดแทนวิธีป้องกันหลัก (ถุงยาง/การลดพฤติกรรมเสี่ยง) และไม่ใช่ทางออกสำหรับการใช้เป็นประจำ แทนการวางแผนป้องกันล่วงหน้า


ข้อดี และข้อจำกัดของ Doxy-PEP

ข้อดี

  • ลดความเสี่ยงการติดเชื้อแบคทีเรีย ที่พบบ่อยหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ โดยเฉพาะ ซิฟิลิส และคลามัยเดีย และอาจช่วยลดหนองในในบางบริบท

  • ใช้ง่าย เป็น มื้อสั้นตามเหตุการณ์ (เช่น 200 mg ภายใน 72 ชม. หลังเพศสัมพันธ์) ไม่ต้องกินต่อเนื่องยาวหลายสัปดาห์

  • เหมาะในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีประวัติเป็น STIs ซ้ำ ช่วย “ตัดวงจร” การติดเชื้อซ้ำ และภาระการรักษา

  • ช่วยเสริมยุทธศาสตร์สุขภาพทางเพศแบบองค์รวม ร่วมกับการตรวจคัดกรองสม่ำเสมอ ถุงยาง และการให้คำปรึกษาลดเสี่ยง

ข้อจำกัด

  • ไม่ป้องกัน ไวรัส (เช่น HIV) และ ประสิทธิภาพต่อหนองใน อาจแปรผันตามพื้นที่/รูปแบบการดื้อยา

  • มีความกังวลเรื่อง การดื้อยาปฏิชีวนะ และผลกระทบต่อ จุลชีพประจำถิ่น (ไมโครไบโอม) จึงควรใช้ในกลุ่มที่เหมาะสม ภายใต้การติดตามอย่างเป็นระบบ

  • อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น ระคายทางเดินอาหาร คลื่นไส้ แพ้แดดง่าย (photosensitivity) และมีปฏิกิริยากับสาร/ยา (เช่น แคลเซียม เหล็ก อะลูมิเนียม ในยาลดกรด) ที่ลดการดูดซึม

  • สถานะนโยบาย/แนวทาง ยังพัฒนาอยู่ในหลายประเทศ ต้องอิงคำแนะนำปัจจุบันของพื้นที่ และพิจารณาเป็นรายบุคคล

  • มีข้อห้ามใช้ในบางภาวะ (เช่น การตั้งครรภ์บางช่วง แพ้ tetracycline) และไม่ควรใช้พร่ำเพรื่อหรือใช้แทนการตรวจรักษาตามมาตรฐาน


ทำไมหลายคนถึงสับสน

  • ทั้งสองมีคำว่า PEP เหมือนกัน และต่างก็เป็น การป้องกันหลังสัมผัสความเสี่ยง (Post-Exposure Prophylaxis)

  • หลายคนจึงเข้าใจว่าเป็นยาแบบเดียวกันหรือสามารถใช้แทนกันได้


ความจริงคือ…

  • PEP ใช้ ยาต้านไวรัส หลายตัวร่วมกัน เพื่อป้องกัน HIV หลังมีความเสี่ยง เช่น เพศสัมพันธ์ไม่ป้องกัน หรือเข็มตำจากผู้ติดเชื้อ

  • Doxy-PEP ใช้ ยาปฏิชีวนะ doxycycline ขนาด 200 mg หลังมีเพศสัมพันธ์เสี่ยง เพื่อป้องกัน โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากแบคทีเรีย เช่น ซิฟิลิส คลามัยเดีย และบางส่วนของหนองใน


ความเสี่ยงหากใช้ผิด

  • หากเสี่ยงต่อ HIV แต่กลับใช้ Doxy-PEP แทน PEP → จะไม่ได้รับการป้องกันไวรัสที่ถูกต้อง เสี่ยงต่อการติดเชื้อ

  • หากเสี่ยงต่อ ซิฟิลิสหรือคลามัยเดีย แต่กลับใช้ PEP → จะไม่ได้ช่วยลดโอกาสติดเชื้อแบคทีเรีย เพราะ PEP ไม่ครอบคลุม

  • หากใช้ Doxy-PEP บ่อยเกินไปโดยไม่เหมาะสม → อาจนำไปสู่ปัญหา การดื้อยาปฏิชีวนะ


PEP และ Doxy-PEP เป็นมาตรการป้องกันที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง PEP ใช้เพื่อป้องกันเชื้อไวรัส ในขณะที่ Doxy-PEP มุ่งเน้นการป้องกันโรคจากแบคทีเรีย การเข้าใจความต่างอย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณเลือกใช้ได้เหมาะสมกับสถานการณ์ และป้องกันความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ


เอกสารอ้างอิง

  • Centers for Disease Control and Prevention (CDC). Clinical Guidance for PEP. Comprehensive details on non-occupational PEP use, timing, and regimens. ออนไลน์ออนไลน์ออนไลน์ เข้าถึงได้จาก https://www.cdc.gov/hivnexus/hcp/pep/index.html

  • Centers for Disease Control and Prevention (CDC). CDC Clinical Guidelines on the Use of Doxycycline Postexposure Prophylaxis for Bacterial STI Prevention — United States, 2024. ออนไลน์ออนไลน์ออนไลน์ เข้าถึงได้จาก https://www.cdc.gov/mmwr/volumes/73/rr/rr7302a1.htm

  • World Health Organization (WHO). Sexually transmitted infections (STIs) fact sheet. Global overview of STIs and updates on doxycycline prophylaxis. ออนไลน์ออนไลน์ออนไลน์ เข้าถึงได้จาก https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/sexually-transmitted-infections-(stis)

  • กระทรวงสาธารณสุขแห่งประเทศไทย. แนวทางการตรวจ รักษา และป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี ประเทศไทย พ.ศ. 2564/2565. เว็บไซต์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. ออนไลน์ออนไลน์ออนไลน์ เข้าถึงได้จาก https://stisqsa.ddc.moph.go.th/app-assets/manual/2566

  • สมาคมโรคเอดส์แห่งประเทศไทย (Thai AIDS Society). Thailand National Guidelines on HIV/AIDS Treatment and Prevention 2021–2022. ออนไลน์ออนไลน์ออนไลน์ เข้าถึงได้จาก https://www.thaiaidssociety.org/thailand-hiv-aids-guideline/

Comments


12 Terry Francine St.

San Francisco, CA 94158

Opening Hours

Mon - Fri

8:00 am – 8:00 pm

Saturday

9:00 am – 7:00 pm

​Sunday

9:00 am – 9:00 pm

bottom of page