Education

เอชไอวี (HIV) เคยถูกมองว่าเป็นโทษประหารชีวิตตั้งแต่การพบผู้ป่วยรายแรกในทศวรรษ 1980 เพราะไร้การรักษาที่มีประสิทธิภาพ ผู้ติดเชื้อต้องเผชิญความตาย ความหวาดกลัว และการตีตรา แต่ด้วยความก้าวหน้าทางการแพทย์ ยาต้านไวรัส ART ทำให้ผู้ติดเชื้อมีชีวิตยืนยาวใกล้เคียงคนทั่วไป ตั้งแต่ก้าวแรกของยาต้าน AZT สู่สูตรผสม HAART และแนวคิด U=U (Undetectable = Untransmittable) ที่พลิกมุมมองต่อเอชไอวีไปตลอดกาล

แม้ว่าโลกจะก้าวหน้าในการรักษาเอชไอวี และการป้องกันการแพร่เชื้อเอชไอวี แต่ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุขประจำปี 2568 เผยให้เห็นว่าภารกิจยังไม่จบ เมื่อประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ถึง 13,357 คน และมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีสะสมสูงถึง 547,556 คน โดยส่วนใหญ่มาจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน

ในกระบวนการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี (HIV) การตรวจวัดระดับ Viral Load และ CD4 เป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้แพทย์สามารถประเมินผลของการรักษา และวางแผนการดูแลผู้ติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การติดเชื้อเอชไอวี แม้จะสามารถควบคุมได้ด้วยยาต้านไวรัส แต่สิ่งที่หลายคนอาจมองข้าม คือ ผลกระทบทางจิตใจ ที่อาจทำให้เกิดภาวะวิตกกังวล

การติดเชื้อเอชไอวี ยังคงเป็นปัญหาสุขภาพระดับโลก ล่าสุด องค์การอนามัยโลก ได้ กำหนดแนวทางใหม่เกี่ยวกับการติดเชื้อเอชไอวี ขั้นสูง หรือ AHD

ภาวะซึมเศร้าในผู้ติดเชื้อเอชไอวีเป็นปัญหาที่มีความสำคัญ และซับซ้อนมากกว่าที่หลายคนคิด การรู้ว่าตนเองติดเชื้อเอชไอวีสามารถสร้างความเครียด...

สำหรับสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวี และผู้ป่วยเอดส์ ในระบบหลักประกันสุขภาพมีบริการสำหรับประชาชนที่ใช้สิทธิบัตรทองทุกคน

การใช้สารเสพติด เช่น ฝิ่น เฮโรอีน ยาบ้า โคเคน ยาสูดพ่น และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งอาจนำไปสู่พฤติกรรมที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี

ผู้ติดเชื้อเอชไอวีควรคำนึงถึง การดูแลตัวเองเป็นหลัก ด้วยการรับมือ และดูแลตัวเองในการต่อสู้กับเชื้อเอชไอวี เพื่อไม่ให้ไปสู่ภาวะโรคเอดส์

ยาต้านไวรัส (Antiretroviral Therapy หรือ ART) คือ การรักษาเอชไอวี ด้วยยาต้านไวรัสหลายชนิดรวมกัน เพื่อควบคุมเชื้อเอชไอวีในร่างกาย

การที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อเอชไอวีนั้นสามารถทำได้ เพียงแค่เรียนรู้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเชื้อเอชไอวี

การดูแลสุขภาพจิตให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ถือเป็นเรื่องปกติที่ผู้ติดเชื้อ จะรู้สึกเครียด ซึมเศร้า และวิตกกังวลเป็นอย่างมากหลังจากทราบว่าติดเชื้อ

การรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีในปัจจุบัน มักเป็นการใช้ยาต้านเอชไอวี เป็นวิธีการที่ได้ผลดีที่สุด

การตรวจหาเชื้อเอชไอ คือ การนำสารคัดหลั่งจากร่างกายไปตรวจหาเชื้อเอชไอวี ในห้องปฏิบัติการ โดยสามารถเก็บตัวอย่างได้จากเลือด หรือน้ำลายในช่องปาก